ยอดขาย ‘Tesla’ ลดลงครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษ เผชิญศึกอีวีอันดุเดือดกับจีน

ยอดขาย ‘Tesla’ ลดลงครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษ เผชิญศึกอีวีอันดุเดือดกับจีน

‘Tesla’ ยักษ์ใหญ่แห่งวงการอีวีเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งใหญ่ เมื่อยอดขายประจำปีร่วงลงเป็น ‘ครั้งแรก’ ในรอบกว่า 10 ปี แม้จะพยายามเร่งเครื่องส่งมอบในไตรมาสสุดท้ายก็ตาม

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า “เทสล่า” (Tesla) บริษัทรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ชั้นนำแห่งสหรัฐ ประสบภาวะยอดขายรถยนต์ประจำปี “ลดลงเป็นครั้งแรก” ในรอบกว่าทศวรรษ แม้จะมีการเร่งส่งมอบในช่วงไตรมาสที่สี่อย่างเข้มข้นก็ตาม ผลประกอบการล่าสุดของบริษัทภายใต้การนำของอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของ Tesla แสดงให้เห็นยอดขายอยู่ที่ 1.79 ล้านคัน ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้และความคาดหวังของตลาด

สิ่งนี้เป็นเครื่องเตือนใจที่ชวนให้ตระหนักถึงความท้าทายของรถอีวีในโลกความเป็นจริง แม้ว่ากระแสความตื่นเต้นเกี่ยวกับรถยนต์ไร้คนขับและความสัมพันธ์อันใกล้ชิดของมัสก์ กับว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะส่งผลให้หุ้นของ Tesla พุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ความต้องการของผู้บริโภคที่ไม่ร้อนแรงนักกำลังฉุดยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งปัญหานี้อาจรุนแรงขึ้นหากทรัมป์เดินหน้าแผนการลดแรงจูงใจรถอีวี

สำหรับหุ้นของ Tesla ร่วงลงหลังจากผลประกอบการออกมา โดยลดลง 5.8% ณ เวลา 10:49 น. ตามเวลาในนิวยอร์ก 

ในไตรมาสสิ้นสุด 31 ธันวาคม บริษัทได้ส่งมอบยานพาหนะจำนวน 495,570 คัน ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 512,277 คัน บริษัทจำเป็นต้องขายยานพาหนะเกือบ 515,000 คันในไตรมาสนั้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเติบโต

ที่ผ่านมา Tesla ประสบกับอุปสรรคมากมายในปี 2024 รวมถึงเหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานในเบอร์ลิน การเปลี่ยนเส้นทางการขนส่ง และการชะลอตัวของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วทั้งอุตสาหกรรม บริษัทได้แจ้งแก่นักลงทุนว่า ความต้องการรถอีวีทั้งหมดของบริษัทอยู่ระหว่างสองช่วงการเติบโตที่สำคัญ ในเดือนเมษายน ผู้ผลิตรถยนต์ในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส แห่งสหรัฐได้ลดพนักงานลงมากกว่า 10% 

มัสก์เผยแก่นักลงทุนในการประชุมรายได้ล่าสุดของ Tesla ว่า คาดการณ์การเติบโต 20% ถึง 30% ในปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนบางส่วนจากรถราคาประหยัดยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งแรกของปี และเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติของบริษัท 

มีข้อกังขาอยู่บ้างเกี่ยวกับความสามารถของบริษัทในการบรรลุเป้าหมายการเติบโตในปี 2025 โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเครดิตภาษีรถยนต์ไฟฟ้าถูกยกเลิกภายใต้การบริหารของทรัมป์ 

อย่างไรก็ตาม มัสก์อ้างในเดือนกรกฎาคมว่า จะทำร้าย Tesla ในระยะสั้น แต่จะทำร้ายคู่แข่งของ Tesla มากกว่า

ในขณะเดียวกัน เป็นที่คาดว่าทรัมป์จะผ่อนคลายกฎระเบียบของรัฐบาลกลางเกี่ยวกับรถขับขี่อัตโนมัติ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อ Tesla และมัสก์ยังเป็นผู้บริจาคเงินรายใหญ่ให้กับพรรครีพับลิกันในปี 2024 และได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวงในที่ปรึกษาของทรัมป์

สำหรับยอดขายรวมของรถยนต์รุ่น Model 3 และ Model Y ของ Tesla อยู่ที่ 471,930 คันในไตรมาสที่สี่ บริษัทยังรายงานอีกว่า ในหมวดรุ่นอื่นๆ ซึ่งรวมถึงรถยนต์ Model X, S และ Cybertruck มีการส่งมอบ 23,640 คัน ซึ่ง “สหรัฐ” และ “จีน” เป็นตลาดสองอันดับแรกของโลก

นอกจากนี้ Tesla ประสบความสำเร็จในการสร้างสถิติใหม่สูงสุดประจำปีสำหรับธุรกิจด้านพลังงาน โดยสามารถติดตั้งพลังงานสะอาดได้ถึง 31.4 กิกะวัตต์ชั่วโมงตลอดทั้งปี 2024 ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในไตรมาสสุดท้ายที่สามารถติดตั้งได้ถึง 11 กิกะวัตต์ชั่วโมง สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของธุรกิจด้านพลังงานของ Tesla

อ้างอิง: bloomberg