ข่าวดีราคาทอง! 'แบงก์ชาติจีน' กลับมาตุนทองรอบใหม่ 2 เดือนติด
'ธนาคารกลางจีน' กลับมาลุยซื้อทองคำสำรองรอบใหม่สองเดือนติดต่อกัน พ.ย.-ธ.ค. แม้ราคาแพงใกล้ระดับทุบสถิติ หลังจากหยุดซื้อไปนานถึง 6 เดือน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ธนาคารกลางจีน (PBOC) เดินหน้าซื้อทองคำเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นในเดือนธ.ค. 2567 และเป็นการซื้อติดต่อกันเป็นเดือนที่สองแล้ว บ่งชี้ถึง สัญญาณที่แบงก์ชาติจีนกลับมาเดินหน้าทุนทองคำอีกครั้ง หลังจากที่หยุดซื้อไปชั่วคราวตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว เนื่องจากราคาที่พุ่งสูงขึ้น
ในเดือนธ.ค. ที่ผ่านมา PBOC ถือครองทองคำสำรองอยู่ที่ 73.29 ล้านออนซ์ เพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ย. ซึ่งอยู่ที่ 72.96 ล้านออนซ์ โดยแบงก์ชาติจีนเริ่มกลับมาซื้อทองคำอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน หลังจากที่หยุดซื้อไปนานถึง 6 เดือน
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 7 ม.ค. สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 18.00 ดอลลาร์ หรือ 0.68% ปิดที่ 2,665.40 ดอลลาร์/ออนซ์
การซื้อขายดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า แบงก์ชาติจีนยังคงมุ่งจะกระจายความเสี่ยงของทุนสำรองระหว่างประเทศ แม้ว่าราคาทองคำจะยังอยู่ในระดับที่แพงเป็นประวัติการณ์ก็ตาม โดยที่ผ่านมาในปี 2567 การพุ่งขึ้นของราคาทองคำโลกได้รับปัจจัยสนับสนุนหลักๆ จากการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย และการซื้อทองคำสำรองอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม การพุ่งขึ้นดังกล่าวได้ชะลอตัวลงหลังจากที่ "โดนัลด์ ทรัมป์" ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย. ซึ่งส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ได้เลื่อนการคาดการณ์ราคาทองคำที่คาดว่าจะแตะระดับ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ออกไปเป็นปี 2569 แทน โดยอ้างถึงปัจจัยที่คาดการณ์ว่าเฟดจะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายสำนักเช่น ธนาคารเจพีมอร์แกน ที่ยังคงคาดการณ์ราคาเป้าหมาย 3,000 ดอลลาร์ในปีนี้