‘6 ซีอีโอ’ ในวงการบิ้กเทค ต้องการอะไรจาก ‘ทรัมป์’ ?

ย้อนไปในพิธีสาบานตนของประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” เมื่อวันที่ 20 ม.ค.68 ในที่นั่งแถวหน้ารายล้อมไปด้วยเหล่า ซีอีโอบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ แม้ว่าการได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานจะถือเป็นเรื่องที่ดี แต่นั่นไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดของพวกเขา เนื่องจากบริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้ยังมีผลประโยชน์อีกมากมายที่ต้องการจากทรัมป์ในช่วง 4 ปีของการดำรงตำแหน่ง ซึ่งต่อไปนี้ คือ ภาพรวมของความต้องการที่ทาง บลูมเบิร์ก ได้สรุปไว้  

‘อีลอน มัสก์’ ซีอีโอเทสลา (Tesla)

สิ่งที่ให้ทรัมป์: อีลอน มัสก์ ได้บริจาคเงินอย่างน้อย 245 ล้านดอลลาร์ ให้กับการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีของทรัมป์และคณะกรรมการปฏิบัติการทางการเมือง (PAC) ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ เขายังแสดงการสนับสนุนทรัมป์อย่างเปิดเผย  พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนเครือข่ายสังคมออนไลน์ X ให้เอนเอียงไปในทิศทางที่สนับสนุนกลุ่ม MAGA

สิ่งที่ได้รับจากทรัมป์: มัสก์ได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าพบและรับฟังความคิดเห็นจากทรัมป์โดยตรง นอกจากนี้ เขายังได้รับบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลหน่วยงานด้านประสิทธิภาพของรัฐบาลที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่ แม้ว่าขอบเขตอำนาจที่แท้จริงของหน่วยงานนี้ยังไม่เป็นที่ประจักษ์ชัด แต่อย่างน้อยที่สุดพวกเขาก็มีสำนักงานและที่อยู่อีเมลอย่างเป็นทางการในทำเนียบขาว

นอกจากนี้ พันธมิตรของมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกคนนี้ยังได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสำคัญ ได้แก่ จาเร็ด ไอแซกแมน ได้รับเลือกให้บริหารองค์การนาซา (NASA) และเบรนแดน คาร์ ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการกลางกำกับดูแลการสื่อสาร (FCC)

สิ่งที่ต้องการจากทรัมป์: รัฐบาลกลางสหรัฐเป็นลูกค้าที่สำคัญที่สุดของบริษัท Space Exploration Technologies Corp. (SpaceX) ของมัสก์ รวมถึงบริษัทในเครือด้านดาวเทียมอย่าง Starlink ธุรกิจต่างๆ ในเครือของมัสก์มีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์จากนโยบายที่ผ่อนปรนมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านการพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อบริษัท Tesla Inc.

นอกจากนี้ คณะกรรมการกลางกำกับดูแลการสื่อสาร (FCC) อาจมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตและการระดมทุนของ Starlink รวมถึงช่วยลดข้อจำกัดด้านกฎระเบียบสำหรับ SpaceX นอกจากนี้ ยังรวมถึงบริษัท Boring Co. ซึ่งเป็นบริษัทขุดอุโมงค์ของมัสก์ และ xAI ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพล่าสุดของเขา

สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ หากทรัมป์สามารถรักษาคำมั่นสัญญาในการส่งนักบินอวกาศไปยังดาวอังคารได้ นั่นจะเป็นการช่วยให้มัสก์บรรลุความฝันที่เขาใฝ่หามาตลอดชีวิต

เจฟฟ์ เบซอส (Jeff Bezos) ซีอีโออเมซอน (Amazon)

สิ่งที่มอบให้ทรัมป์: บริษัท Amazon.com Inc. ได้บริจาคเงินจำนวน 1 ล้านดอลลาร์ให้กับกองทุนพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ และหนังสือพิมพ์ Washington Post ที่อยู่ภายใต้การบริหารของเบซอส ได้ตัดสินใจไม่ประกาศสนับสนุนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใด โดยเบซอสอธิบายว่าเป็นการตัดสินใจเพื่อหลีกเลี่ยง "ภาพลักษณ์ของความลำเอียง" อย่างไรก็ตาม หลายคน รวมถึงอดีตพนักงานจำนวนมากของ Washington Post มองว่านี่เป็นความพยายามในการเอาใจทรัมป์

นอกจากนี้ Amazon ยังได้ซื้อสิทธิ์พิเศษในการผลิตสารคดีเกี่ยวกับสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เมลาเนีย ทรัมป์มูลค่ากว่า 40 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเธอจะมีบทบาทเป็นผู้อำนวยการสร้างบริหารของโครงการนี้ด้วย

สิ่งที่ได้รับจากทรัมป์: เบซอสได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานร่วมในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี โดยเขาได้รับเกียรตินี้พร้อมกับภรรยา ลอเรน ซานเชซ 

สิ่งที่ต้องการจากทรัมป์: ลีนา คาน ประธานคณะกรรมการการค้าแห่งสหพันธรัฐ (FTC) ในสมัยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้นำเสนอแนวคิดว่า Amazon เป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ต่อการแข่งขันทางการค้า และหลังจากเข้าดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการ  ลีนา คานได้ฟ้องร้อง Amazon ในข้อหาผูกขาดทางการค้าอย่างผิดกฎหมาย แม้ว่าคานจะลาออกจากตำแหน่งแล้ว แต่ศาลได้ตัดสินให้ Amazon ต้องเผชิญหน้ากับคดีนี้ต่อไป ทำให้ Amazon ต้องการหาทางยุติคดีนี้นอกศาล

นอกจากนี้ Amazon ยังเผชิญกับข้อร้องเรียนจำนวนมากจากคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์แห่งชาติ (NLRB) ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติต่อพนักงานในคลังสินค้า  

ในขณะเดียวกัน Amazon Web Services ซึ่งเป็นแผนกให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้ง เป็นผู้รับเหมารายสำคัญของกองทัพ และ Blue Origin บริษัทด้านอวกาศของเบซอส ก็กำลังพยายามแข่งขันเพื่อให้ได้มาซึ่งสัญญาจากรัฐบาลเช่นกัน

มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของเมตา (Meta)

สิ่งที่มอบให้ทรัมป์: บริษัท Meta Platforms Inc. ได้บริจาคเงินจำนวน 1 ล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี และแสดงการสนับสนุนทรัมป์ต่อสาธารณชนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเริ่มชัดเจนตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา เมื่อเขาวิจารณ์การตอบสนองของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนหนึ่งต่อเหตุการณ์กราดยิงว่า "เป็นหนึ่งในสิ่งที่แย่ที่สุดที่ผมเคยเห็นมาในชีวิต"

นอกจากนี้ ซักเคอร์เบิร์กได้ทำการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญต่อนโยบายการจัดการข้อมูลบิดเบือนของ Meta โดยยกเลิกแนวปฏิบัติที่ทรัมป์เคยวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอด

สิ่งที่ได้รับจากทรัมป์: ทรัมป์ยุติการพูดถึงการจำคุกซักเคอร์เบิร์กตลอดชีวิต และมอบที่นั่งพิเศษในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งให้กับเขา

หลังจากที่ซักเคอร์เบิร์กได้เสนอแนะให้ทรัมป์กดดันสหภาพยุโรปให้ผ่อนปรนการบังคับใช้กฎระเบียบต่อบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ทรัมป์ก็ได้นำประเด็นนี้ไปรวมไว้ในสุนทรพจน์ของเขาที่กล่าวในการประชุมฟอรัมเศรษฐกิจโลกเมื่อวันที่ 23 มกราคม

สิ่งที่ต้องการจากทรัมป์: Meta มีผลประโยชน์มากมายที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลกลาง รวมถึงการนำเสนอโมเดลปัญญาประดิษฐ์ให้กับหน่วยงานรัฐบาลและผู้รับเหมาด้านกลาโหม ในขณะเดียวกัน คณะกรรมการการค้าแห่งสหพันธรัฐ (FTC) กำลังพยายามบังคับให้บริษัทขาย WhatsApp และ Instagram โดยจะมีการพิจารณาคดีในเดือนเมษายน

ซักเคอร์เบิร์กจะได้ประโยชน์หากมีการผ่อนปรนนโยบายต่อต้านการผูกขาดที่เข้มงวดในยุคของไบเดน อย่างไรก็ตาม มีบางประเด็นที่อาจเป็นผลดีต่อ Meta เช่น การที่รัฐบาลยอมรับโมเดล AI แบบเปิดเผยรหัส (open source) และการสั่งห้าม TikTok แต่ประเด็นเหล่านี้กลับขัดกับผลประโยชน์ของผู้มีอิทธิพลในวงการเทคโนโลยีรายอื่นๆ ที่มีความสัมพันธ์กับประธานาธิบดี

ทิม คุก ( Tim Cook) ซีอีโอของแอปเปิล (Apple)

สิ่งที่ให้ทรัมป์: ทิม คุกเป็นผู้บริหารด้านเทคโนโลยีเพียงคนเดียวที่แสดงการสนับสนุนทรัมป์ในช่วงการดำรงตำแหน่งสมัยแรก และบริษัท Apple Inc. ได้บริจาคเงินส่วนตัวจำนวน 1 ล้านดอลลาร์ให้กับกองทุนพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สองของทรัมป์

สิ่งที่ได้รับจากทรัมป์: ในช่วงสมัยแรกของทรัมป์ได้แสดงความพึงพอใจต่อการสนับสนุนของคุกอย่างชัดเจน และได้กล่าวชื่นชมเขาอย่างเปิดเผยว่าเป็น "นักธุรกิจที่ยอดเยี่ยม" รวมถึงทรัมป์ได้ลดภาษีนำเข้าชิ้นส่วนจากจีนที่ Apple ต้องการ และคุกได้เข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้รับที่นั่งที่ห่างจากเพื่อนร่วมงานเพียงเล็กน้อย

สิ่งที่ต้องการจากทรัมป์: Apple กำลังเผชิญความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบทางอ้อมอีกครั้งจากสงครามการค้ากับจีน ซึ่งตามรายงานของ Bloomberg Intelligence ระบุว่าจีนเป็นฐานการผลิต iPhone มากกว่า 80% ความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างคุกกับทรัมป์ทำให้เขาอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบในลดความรุนแรงของผลกระจากนโยบายภาษีนำเข้า

นอกจากนี้ Apple ยังต้องเผชิญกับการสอบสวนในประเด็นการผูกขาดทางการค้า แต่เนื่องจากคดียังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากทรัมป์จึงมีอำนาจที่จะยุติหรือยกเลิกการสอบสวนนี้ได้

‘ซุนดาร์ พิชัย’ (Sundar Pichai)  ซีอีโอของ อัลฟาเบท (Alphabet)

สิ่งที่มอบให้ทรัมป์: Alphabet Inc. ได้บริจาคเงินจำนวน 1 ล้านดอลลาร์ ให้กับกองทุนพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง

สิ่งที่ได้รับจากทรัมป์: พิชัยได้รับที่นั่งระหว่างเจฟฟ์ เบซอส และอีลอน มัสก์ ในพิธีสาบานตน โดยมีเซอร์เกย์ บริน ผู้ร่วมก่อตั้ง Google เข้าร่วมงานด้วย

สิ่งที่ต้องการจากทรัมป์: กระทรวงยุติธรรมสหรัฐมีคดีฟ้องร้องบริษัท Alphabet ในข้อหาผูกขาดทางการค้าสองคดี ซึ่งคดีเหล่านี้มีความคืบหน้ามากกว่าคดีที่ฟ้องร้องบริษัทคู่แข่ง คดีดังกล่าวอาจนำไปสู่คำสั่งแยก Chrome ออกจาก Google อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากทรัมป์มีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงแนวทางการแก้ไขที่กระทรวงกำลังพิจารณาอยู่

นอกจากนี้ Google ยังมีความต้องการเกี่ยวกับการควบคุม AI โดยต้องการให้มีการปรับปรุงกฎหมายที่มีอยู่แทนการออกกฎหมายใหม่ และหลีกเลี่ยงการจัดตั้งหน่วยงานกำกับดูแล AI โดยเฉพาะ

โชว จื่อ ชิว (Shou Zi Chew) ซีอีโอของ TikTok

สิ่งที่มอบให้ทรัมป์: เจฟฟ์ แยส มหาเศรษฐีพรรครีพับลิกัน ซึ่งบริษัทของเขาถือหุ้น 15% ในบริษัท ByteDance Ltd. ของจีน ได้กลายมาเป็นพันธมิตรและที่ปรึกษาที่ใกล้ชิดของทรัมป์ แม้ว่าทรัมป์เคยพยายามสั่งห้าม TikTok ในสมัยแรก แต่เมื่อเร็วๆ นี้เขากลับกล่าวว่าตอนนี้มี "มุมมองที่ต่างไป" ต่อแพลตฟอร์มนี้ โดยมองว่าเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพในการเผยแพร่เนื้อหาที่สนับสนุนเขา

สิ่งที่เขาได้รับจากทรัมป์: Chew ได้นั่งในแถวหลังของผู้บริหารเทคโนโลยีคนอื่นๆ ในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อชะลอการบังคับใช้กฎหมายห้าม TikTok ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม เนื่องจาก TikTok ยังไม่สามารถหาเจ้าของรายใหม่ที่ไม่มีความเชื่อมโยงกับจีนได้

สิ่งที่เขาต้องการจากทรัมป์: การดำเนินงานของ TikTok ในสหรัฐยังคงเผชิญกับภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่  ในกรณีที่ดีที่สุด คำสั่งของทรัมป์อาจทำให้การพิจารณาคดีล่าช้าออกไป ซึ่งยังอยู่ในระกว่างการพิจารณา ทรัมป์กล่าวว่าเขาหวังที่จะสนับสนุนการร่วมทุนระหว่าง ByteDance และนักลงทุนในสหรัฐ