ทรัมป์ กดดัน พาวเวล ลดดอกเบี้ย ขณะที่ ‘ภาษี‘ เริ่มกดดันเศรษฐกิจ

ทรัมป์ กดดัน พาวเวล ลดดอกเบี้ย ขณะที่ ‘ภาษี‘ เริ่มกดดันเศรษฐกิจ

ทรัมป์กดดันเฟดลดดอกเบี้ย แม้ยังเชื่อภาษีศุลกากรไม่กระทบเศรษฐกิจ ขณะเตรียมประกาศมาตรการใหม่ 2 เม.ย.68

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานถ้อยแถลงของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ วันนี้ (20 มี.ค.68) ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ควรลดอัตราดอกเบี้ยไม่นานหลังจากการประชุมเฟดจบลง

“จะดีกว่ามากถ้าเฟดลดอัตราดอกเบี้ยลง เพราะตอนนี้ผลกระทบจากภาษีศุลกากรก็กำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่เศรษฐกิจของสหรัฐแบบไร้ปัญหา”

ทรัมป์กล่าวในโพสต์สื่อสังคมออนไลน์ Truth Social พร้อมอธิบายเสริมว่า "ขอให้เฟดทำสิ่งที่ถูกต้อง วันที่ 2 เม.ย.คือวันปลดปล่อยของอเมริกา!!!"

โพสต์ของทรัมป์เมื่อคืนวันพุธหรือวันพฤหัสบดีที่ 20 มี.ค.68 ตามเวลาประเทศไทย และเกิดขึ้นในขณะที่รัฐบาลของเขากำลังเตรียมเปิดตัว "คลื่นภาษีศุลกากรลูกใหม่" ซึ่งประธานเฟด เจอโรม พาวเวล ส่งสัญญาณว่ากำลังมีผลต่อการคาดการณ์เศรษฐกิจในอนาคต

ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายทางการเงินของเฟด ได้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้คงเดิมในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ พาวเวลลดความสำคัญของความกังวลที่กำลังเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ แต่ยอมรับว่าความไม่แน่นอนของภาษีศุลกากรเป็นปัจจัยหนึ่งและกำลังส่งผลต่อเงินเฟ้อสินค้าแต่อาจมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจเพียงชั่วคราว

ทั้งนี้ รัฐบาลของทรัมป์กำลังเตรียมภาษีศุลกากรอีกครั้งในวันที่ 2 เม.ย.68 แม้ยังไม่มีรายละเอียดออกมาชัดเจนแต่ทรัมป์สัญญาที่จะใช้ภาษีศุลกากรแบบ "ต่างตอบแทน" หรือ Reciprocal Tarrif กับบางประเทศ แม้ว่ารัฐบาลของเขายังไม่ได้ระบุว่าเป็นประเทศใดหรือในอัตราเท่าไร 

การผลักดันต่อต้านอัตราดอกเบี้ยอย่างเปิดเผยเกิดขึ้นในขณะที่ทำเนียบขาวของทรัมป์พยายามสร้างเหตุผลสนับสนุนการเพิ่มภาษีศุลกากรท่ามกลางภาพเศรษฐกิจที่ "ผสมผสาน" ในสหรัฐ เงินเฟ้อยังไม่ลดลงมากอย่างที่ผู้บริโภคชาวอเมริกันต้องการ อัตราดอกเบี้ยสูงกำลังบีบตลาดที่อยู่อาศัย และนักเศรษฐศาสตร์มองว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะชะลอตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

บทวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก เผยว่า ที่ผ่านมาทรัมป์ส่งข้อความที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับเฟดซ้ำๆ บางครั้งเรียกร้องให้ลดอัตราดอกเบี้ย และบางครั้งปฏิเสธที่จะแทรกแซง ในทำนองเดียวกัน ระหว่างการรณรงค์หาเสียง เขาได้เปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับความเป็นอิสระที่เฟดควรมีจากทำเนียบขาว

ทรัมป์กล่าวว่า เขาตั้งใจที่จะอนุญาตให้พาวเวล ซึ่งเขาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในปี 2018 ดำรงตำแหน่งตลอดวาระที่เหลือ อย่างไรก็ตาม เขายังมองว่าการตัดสินใจของพาวเวลที่จะลดอัตราดอกเบี้ยก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพ.ย.เป็นการกระทำที่มีแรงจูงใจทางการเมือง และมีเจตนาที่จะสนับสนุนพรรคเดโมแครต

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ก็ชนะการเลือกตั้งในที่สุด และได้ปราศรัยในอดีตเกี่ยวกับ "การแสวงหาอิทธิพลเหนือธนาคารกลาง" ซึ่งโดยทั่วไปควรเป็นอิสระจากทำเนียบขาว ซึ่งเขากล่าวว่า ประธานาธิบดีควรสามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยได้

"ผมอาจจะไม่สามารถสั่งการเรื่องดอกเบี้ยได้ แต่ผมคิดว่าผมมีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยควรขึ้นหรือลง" ทรัมป์กล่าว ในการให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg News ที่ Economic Club of Chicago ในเดือนต.ค.

อย่างไรก็ตาม ที่ปรึกษาเศรษฐกิจชั้นนำหลายคนของเขาได้โต้แย้งว่าเฟดต้องรักษาความเป็นอิสระเพื่อรักษาความเชื่อมั่นของประชาชนในระบบเศรษฐกิจ และตลาดสหรัฐ

เมื่อช่วงต้นวันพุธ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจแห่งชาติของทรัมป์ เควิน แฮสเซ็ตต์ เน้นย้ำกับผู้สื่อข่าวว่าประธานาธิบดี และเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว "เคารพความเป็นอิสระของเฟดอย่างมาก"

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ก็ได้แสดงให้ผู้สื่อข่าวเห็นชัดเจนว่าเขาไม่เห็นด้วยกับการคาดการณ์การเติบโตของเฟด โดยกล่าวว่า เขาคาดการณ์อัตราการเติบโตที่ 2.5% แต่เจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์การขยายตัวที่ 1.7%

 

 

อ้างอิง: Bloomberg 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์