ดร.กอบศักดิ์ เตือน ทรัมป์ทุบตลาดหุ้นร่วง 7 นางฟ้า ดิ่งเหว

"ดาวโจนส์" ดิ่งลง 4,000 จุดในเพียง 2 วันหลังทรัมป์ประกาศมาตรการภาษีตอบโต้ ขณะที่ Nasdaq ทรุดตัว 22.3% เข้าสู่ภาวะตลาดหมี กลุ่มเทคโนโลยี "7 นางฟ้า" ถูกเทขายหนัก นำโดย Tesla ร่วง 50.1% และ Nvidia ดิ่ง 36.9%
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เผชิญกับภาวะผันผวนรุนแรงหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศมาตรการภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) โดยดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 4,000 จุดในเพียง 2 วันทำการ ขณะที่ดัชนี Nasdaq ทรุดตัวลงถึง 22.3% จากระดับ 20,056 จุดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มาอยู่ที่ 15,588 จุด ส่งผลให้เข้าสู่ภาวะตลาดหมี (Bear Market) อย่างเป็นทางการ
ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัววันนี้ (5 เม.ย.) ว่า ความผันผวนรุนแรงส่งผลกระทบอย่างหนักต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีชั้นนำหรือที่รู้จักกันในนาม "7 นางฟ้า" ซึ่งร่วงลงอย่างหนัก โดย Tesla ปรับตัวลดลงมากที่สุดถึง 50.1% จากระดับสูงสุด 479.9 ดอลลาร์ เหลือเพียง 239.4 ดอลลาร์ ตามมาด้วย Nvidia ที่ร่วงลง 36.9% จาก 149.4 ดอลลาร์ เหลือ 94.3 ดอลลาร์
ภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นโลก
ขณะที่หุ้นเทคโนโลยียักษ์ใหญ่รายอื่นก็ปรับตัวลดลงไม่แพ้กัน โดย Meta ลดลง 31.5% Amazon ลดลง 29.4% Alphabet ลดลง 28.9% Apple ลดลง 27.1% และ Microsoft ลดลง 20.9%
"ประเด็นสำคัญที่น่าจับตามองคือการร่วงลงครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ไม่มีวิกฤติเศรษฐกิจหรือเหตุการณ์ความไม่สงบใดๆ แต่เป็นผลโดยตรงจากนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์" ดร.กอบศักดิ์กล่าว
เขาอธิบายเสริมว่า "ก่อนหน้านี้ตลาดยังมีความหวังว่าจะสามารถทำจุดสูงสุดใหม่ (New High) ได้ หากสหรัฐฯ ยังคงมุ่งเน้นการส่งเสริมพัฒนาเศรษฐกิจ ลดกฎเกณฑ์ที่เป็นอุปสรรค และสนับสนุนการทำวิจัยและพัฒนา (R&D)"
ดร.กอบศักดิ์ แสดงความกังวลว่า สถานการณ์อาจยังไม่สิ้นสุดเพียงเท่านี้ เนื่องจากประธานาธิบดีทรัมป์ได้กล่าวว่า "We are just getting started!!!" ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจมีมาตรการเพิ่มเติมตามมาในอนาคต
"ที่น่ากังวลคือทั้งสองประเทศต่างพึ่งพากันและกัน จีนมีสหรัฐฯ เป็นตลาดสำคัญ ขณะที่สหรัฐฯ ก็พึ่งพาวัตถุดิบและสินค้าต่างๆ จากจีนซึ่งเป็นโรงงานของโลก หากทั้งสองฝ่ายตัดขาดจากกัน สหรัฐฯ เองก็จะประสบความยากลำบากไม่แพ้กัน" ดร.กอบศักดิ์กล่าว
ล่าสุด ทำเนียบขาวได้เผยแพร่ภาพประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อเย็นวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา พร้อมเดินทางไปพักผ่อนในช่วงสุดสัปดาห์ หลังจากที่ได้ "ทิ้งระเบิดลูกใหญ่" ใส่ระบบเศรษฐกิจโลก แต่ด้วยสถานการณ์ที่เลวร้ายลงอย่างรวดเร็ว อาจทำให้แผนพักผ่อนของประธานาธิบดีต้องเปลี่ยนไป
นักลงทุนทั่วโลกกำลังจับตาดูว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะเปลี่ยนแปลงนโยบายหรือยังคงเดินหน้าต่อไปจนกว่าจะเกิดความเสียหายมากขึ้น ท่ามกลางความกังวลที่ ดร.กอบศักดิ์มองว่า สงครามการค้าครั้งใหม่อาจบานปลายกลายเป็นวิกฤติเศรษฐกิจโลกครั้งใหญ่
อ้างอิง: เฟซบุ๊กดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล