สเปนหวั่นเดินตามรอยกรีซ

หากมองผิวเผินแล้วดูเหมือนสเปนจะอยู่ในช่วงฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แต่ด้วยอัตราการว่างงานซึ่งอยู่ที่ 22.5%มากที่สุดเป็นอันดับ 2ในยูโรโซนต่อจากกรีซทำให้สเปนยังมีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะถดถอยซ้ำซ้อน และเกิดความกังวลว่าผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจของกรีซจะส่งผลต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่บอบบางของประเทศ

ศาสตราจารย์ฮาเบียร์ ดิอาซ กิมิเนซ จากโรงเรียนธุรกิจไออีเอสอีในกรุงมาดริด กล่าวว่า วิกฤติกรีซถือเป็นข่าวไม่สู้ดีนักสำหรับสเปนที่อยู่ในช่วงฟื้นตัวและเศรษฐกิจเปราะบาง เพราะทำให้เกิดภาวะชะงักงันต่อการเติบโตและความมั่นคงในการฟื้นตัว

ศาสตราจารย์กิมิเนซเสริมว่า การแก้ปัญหาหรือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในกรีซในช่วง 6 เดือนข้างหน้าจะเป็นตัวชี้วัดสำคัญ เพราะหากกรีซปรับโครงสร้างหนี้ได้สำเร็จ จะเป็นตัวอย่างที่ดีในการออกแผนแก้ปัญหาหนี้สินให้กับทั้งสเปน โปรตุเกส อิตาลี หรือแม้แต่เบลเยียม

ส่วนเจ้าของแผงลอยรายหนึ่งในตลาดเมร์กาโด เด ลา เซบาดาในกรุงมาดริดบอกว่า แน่นอนว่าขณะนี้ทุกคนกำลังกังวลต่อสถานการณ์ในกรีซ หลังจากเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในกรีซและทั่วภูมิภาคยุโรปตอนใต้ นั่นก็คือเศรษฐกิจที่เปราะบาง ทั้งที่รัฐบาลพยายามดำเนินการแก้ไขแล้วก็ตามขณะที่บรรดาเจ้าของร้านค้าที่รอดพ้นจากภาวะถดถอยครั้งก่อนยังคงสงสัยเกี่ยวกับอนาคตของประเทศและจับตาดูสิ่งที่เกิดขึ้นในกรีซอย่างใกล้ชิด

ขณะที่ความคิดเห็นของชาวกรีซเกี่ยวกับการลงประชามติเรื่องวิกฤติหนี้ในวันอาทิตย์ (5 ก.ค.) นี้ ล่าสุดโพลล์ของเว็บไซต์ยูโรทูเดย์ดอทจีอาร์ (euro2day.gr) ระบุว่า ชาวกรีซ 47% เอนเอียงไปทางโหวตสนับสนุนมาตรรัดเข็มขัด ด้วยความหวังว่าเจ้าหนี้จะยอมให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่กรีซ ขณะที่ชาวกรีซอีก 43% ต้องการโหวตคัดค้าน

ส่วนโพลล์ของสถาบันวิจัยอัลโกพบว่า ชาวกรีซ44.8% จะเลือกโหวตเยส หรือเห็นด้วยกับข้อเสนอของเจ้าหนี้ ขณะที่ 43.4% จะโหวตโน หรือคัดค้าน และอีก 11.8% ยังไม่ตัดสินใจ