พบมหาสมุทรใต้ดวงจันทร์ของดาวเสาร์เอื้อสิ่งมีชีวิต

พบมหาสมุทรใต้ดวงจันทร์ของดาวเสาร์เอื้อสิ่งมีชีวิต

ผลการค้นพบครั้งนี้ระบุว่า มหาสมุทรใต้พื้นผิวน้ำแข็งของเอนเซลาดัส ซึ่งมีความกว้างใหญ่ครอบคลุม ทั้งดาวและลึกหลายกิโลเมตรนั้น ได้รับความร้อนจากแกนกลางของดาวที่เป็นหินแข็ง ซึ่งมีส่วนประกอบหลักเป็นเกลือและซิลิกา

ยานสำรวจแคสสินี ซึ่งโคจรผ่านดวงจันทร์บริวาร “เอนเซลาดัส” ของดาวเสาร์ได้ถ่ายภาพและเก็บตัวอย่างไอน้ำร้อน ที่พวยพุ่งออกมาจากขั้วใต้ของดาว ซึ่งแสดงว่า ก้นมหาสมุทรใต้พื้นผิวที่เป็นน้ำแข็งของเอนเซลาดัส มีกระแสน้ำร้อนหล่อเลี้ยงอยู่ ซึ่งเป็นสภาพที่เอื้อต่อสิ่งมีชีวิต เช่นเดียวกับบริเวณรอยแยกของแผ่นเปลือกโลกใต้มหาสมุทรบนโลก

ดร. ฮันเทอร์ เวต นักวิทยาศาสตร์ผู้ศึกษาข้อมูลจากยานสำรวจแคสสินี บอกว่า ระบบน้ำร้อนที่ก้นมหาสมุทรของเอนเซลาดัสซึ่งทำให้เกิดไอน้ำร้อน พวยพุ่งออกมานั้น น่าจะมีสภาพคล้ายคลึงกับก้นมหาสมุทรบนโลก อันเป็นที่อยู่อาศัยและดำรงชีวิตของจุลชีพจำนวนมาก ซึ่งทำให้มีความ เป็นไปได้ว่าอาจมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ที่ก้นมหาสมุทรของเอนเซลาดัสเช่นกัน แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ จนกว่าจะส่งยานสำรวจที่มีเครื่องมือ เก็บตัวอย่างไอน้ำร้อน เพื่อหาร่องรอยการมีอยู่ของจุลชีพใต้ทะเลโดยเฉพาะไปยังดวงจันทร์เอนเซลาดัสอีกครั้งหนึ่งในอนาคต

ผลการค้นพบครั้งนี้ ตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารไซอึน ระบุว่า มหาสมุทรใต้พื้นผิวน้ำแข็งของเอนเซลาดัส ซึ่งมีความกว้างใหญ่ครอบคลุม ทั้งดาวและลึกหลายกิโลเมตรนั้น ได้รับความร้อนจากแกนกลางของดาวที่เป็นหินแข็ง ซึ่งมีส่วนประกอบหลักเป็นเกลือและซิลิกา โดยแรงดึงดูดมหาศาลจากดาวเสาร์บีบให้แกนกลางของเอนเซลาดัสเกิดความร้อนขึ้น

หากมีจุลชีพอาศัยที่ก้นมหาสมุทรของเอนเซลาดัสจริง นักวิทยาศาสตร์คาดว่า น่าจะมีกลไกการดำรงชีพคล้ายกับที่ก้นมหาสมุทรบนโลก โดยหินร้อนในรอยแยกของแผ่นเปลือกโลกซึ่งอุดมไปด้วยเหล็กและแม็กนีเซียมจะทำปฏิกิริยากับน้ำและปลดปล่อยไฮโดรเจนออกมา ซึ่งไฮโดรเจนเป็นแหล่งพลังงานสำคัญของจุลชีพก้นทะเลเหล่านี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นจุลชีพกลุ่มที่ผลิตมีเทน

ทั้งนี้ ภารกิจสำรวจดาวเสาร์และดวงจันทร์บริวารของยานสำรวจแคสสินีจะสิ้นสุดลงในเดือนกันยายนปีนี้ หลังปฏิบัติภารกิจมานาน 12 ปี โดยยานจะถูกบังคับให้พุ่งเข้าสู่บรรยากาศของดาวเสาร์เพื่อเผาไหม้ให้หมดไป

นอกจากนี้ นาซา ยังอนุมัติให้ดำเนินโครงการสำรวจดวงจันทร์ยูโรปาของดาวพฤหัสบดีในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งคาดว่ามีมหาสมุทร ที่เอื้อต่อสิ่งมีชีวิตเช่นเดียวกับเอนเซลาดัสด้วย แต่พื้นผิวน้ำแข็งของยูโรปาหนากว่า และคาดว่าตัวอย่างน้ำที่เก็บมาศึกษาได้จะมีน้อยกว่า