ไปรู้จัก 'ตลาดใหม่ยูเรเซีย’ โอกาสทองธุรกิจไทย
รายงาน : “รัสเซีย” หนึ่งในประเทศกลุ่มสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย (อีเออียู) ซึ่งจัดว่ามีความสำคัญทางการค้าที่สุดสำหรับไทย เนื่องจาก 90% ของมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับกลุ่มอีเออียู เป็นการค้าขายที่เกิดขึ้นกับรัสเซีย
“รัสเซีย” หนึ่งในประเทศกลุ่มสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย (อีเออียู) ซึ่งจัดว่ามีความสำคัญทางการค้าที่สุดสำหรับไทย เนื่องจาก 90% ของมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับกลุ่มอีเออียู เป็นการค้าขายที่เกิดขึ้นกับรัสเซีย ขณะที่ไทยทำการค้ากับ 4 ประเทศสมาชิกอีเออียูที่เหลือ ได้แก่ เบลารุส คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน และอาร์มีเนีย รวมมูลค่าการค้าเพียง 10% เท่านั้น
กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตรัสเซีย ประจำกรุงเทพฯ จัดงาน "รัสเซีย-ไทย บิสสิเนส ฟอรัม 2019" เปิดโอกาสให้นักธุรกิจของ 2 ประเทศ ทั้งในกลุ่มการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางคมนาคม เทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรมการเกษตร การแปรรูปอาหาร เภสัชกรรม ดิจิทัลเทคโนโลยี หุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติของ 2 ประเทศ ได้นำเสนอความสนใจของบริษัท นำไปสู่การจับทางคู่ธุรกิจ และตัดสินใจลงทุนร่วมกัน
วิชาวัฒน์ อิศรภักดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เวทีนี้เกิดขึ้นในเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากประเทศไทยเพิ่งจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำให้นโยบายมีความต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องวาระทางเศรษฐกิจ
"ขณะนี้ สถานการณ์เศรษฐกิจไทยเติบโตในทิศทางบวก และสถานะการเงินของประเทศยังคงดีอยู่"
วิชาวัฒน์ ยืนยันด้วยว่า รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับในการอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุน โดยการปรับปรุง พ.ร.บ.ส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2561 เพื่อให้สอดรับกับแผนดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติใน 20 ปีข้างหน้า
ในปี 2561 ธนาคารโลกได้จัดให้ไทยเป็นประเทศที่ง่ายต่อการทำธุรกิจ อันดับ 27 จาก 190 ประเทศทั่วโลก ขณะที่สถาบันการจัดการนานาชาติ (ไอเอ็มดี) ได้จัดให้ไทยเป็นประเทศที่มีขีดความสามารถในการแข่งขัน อันดับ 25 จาก 63 ประเทศทั่วโลก
“ปัจจุบัน ไทยได้ทำข้อตกลงการค้าเสรี หรือเอฟทีเอกับ 13 แห่ง โดยในระหว่างนี้กำลังเจรจาเอฟทีเอกับกลุ่มอีเออียู และหวังว่า ไทยจะได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย ซึ่ง ในเร็วๆนี้ จะมีการเปิดตัวเอฟทีเอไทย-อีเออียู ” ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เผย
หากแต่ตอนนี้ เทคโนโลยีได้เปลี่ยนโลก และกำลังเปลี่ยนวิถีชีวิตคนในประเทศ ตลอดจนวิธีการทำธุรกิจอีกด้วย ซึ่งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ได้พยายามสร้างความพร้อมให้กับประเทศ มุ่งยกระดับอุตสาหกรรม และนำเทคโนโลยีนวัตกรรมใช้พัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืน อย่าง โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ภายใต้ยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 ที่ตั้งเป้าให้เป็นศูนย์กลางการผลิตการค้าและการลงทุนในภูมิภาค
“นักลงทุนรัสเซียสามารถเข้ามาแสวงหาโอกาสทางธุรกิจ และร่วมเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนกับไทยในระยะยาว ผ่านการประสานความร่วมมือด้านการลงทุนในอีอีซี ทั้งในสาขาเทคโนโลยการบินและอวกาศ การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ นวัตกรรมด้านพลังงาน และอุตสาหกรรมดิจิทัลและไอที” วิชาวัฒน์ ระบุ
ด้าน อเล็กเซีย กลุซเดฟ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียได้นำคณะนักธุรกิจรัสเซียเข้าร่วมงานรัสเซีย-ไทย บิสสิเนส ฟอรัม หวังได้ทำความรู้จักกับนักธุรกิจชั้นแนวหน้าของไทย ปูทางนำไปสู่ความร่วมมือทางธุรกิจ
ขณะเดียวกัน รัสเซียต้องการโปรโมทสินค้าและธุรกิจของประเทศที่มีความโดดเด่นทางเทคโนโลยี ครอบคลุมไปถึงการใช้บิ๊กดาด้า ดิจิทัลอีคอมเมิร์ซ รวมไปถึงระบบราชการอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้บริการกับนักธุรกิจและประชาชน
"ในปี 2561 การค้าระหว่างไทย-รัสเซีย มีมูลค่ามากกว่า 3,500 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 17% จากปี 2560 และหวังว่าทั้งสองประเทศจะทำงานอย่างใกล้ชิด เพื่อรักษาสมดุลเชิงบวกและช่วยผลักดันให้การค้าระหว่างกันสูงถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ตามที่ตั้งเป้าไว้ในปีหน้า" กลุซเดฟปิดท้าย