สหรัฐเล็งแบน ‘บุหรี่ไฟฟ้าแต่งกลิ่น’ ทั่วประเทศ
สหรัฐ เตรียมสั่งห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าแบบปรุงแต่งกลิ่น หลังมีผู้เสียชีวิต 6 รายจากการสูดไอระเหย
คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐกำลังวางแผนที่จะห้ามการขายบุหรี่ไฟฟ้าที่ปรุงแต่งกลิ่น หลังจากเกิดการระบาดของโรคปอดที่มีสาเหตุมาจากการสูดไอระเหย ซึ่งส่งผลให้มีผู้ป่วยมากกว่า 450 คน และทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คนในสหรัฐ
กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของสหรัฐ (เอชเอชเอส) ออกแถลงการณ์ว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (เอฟดีเอ) จะทำการสรุปนโยบายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งจะทำให้ตลาดปลอดจากบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่มียาสูบแต่มีการปรุงแต่งกลิ่นและเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้รับการอนุญาตให้จำหน่าย
ปธน.ทรัมป์ระบุว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นปัญหาโดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็ก หลังจากที่เขาประชุมกับนายอเล็กซ์ เอซาร์ เลขาธิการเอชเอชเอส และนายนอร์แมน ชาร์ปเลส รักษาการคณะกรรมาธิการเอฟดีเอ
“คณะทำงานของปธน.ทรัมป์ต้องการสร้างความชัดเจนว่า เราตั้งใจที่จะกำจัดบุหรี่ไฟฟ้าแต่งกลิ่นออกไปจากตลาดเพื่อขจัดความวิตกอย่างมากเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของการใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่กำลังส่งผลกระทบต่อเด็ก, ครอบครัว, โรงเรียน และชุมชน” นายเอซาร์กล่าว
บริษัทผลิตบุหรี่ไฟฟ้า อาทิ บริษัท เจยูยูเอล ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าล่อลวงคนหนุ่มสาวและเด็กๆให้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่มีกลิ่นของผลไม้ โดยเด็ก ๆ ทั้ง 5 ล้านคนกำลังใช้ผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งนับว่าเป็นแนวโน้มที่ “น่าตกใจ”
ด้าน เอชเอชเอส เปิดเผยว่า จากข้อมูลเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่า นักเรียนมัธยมปลายในสหรัฐมากกว่า 25% เป็นผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าในปีนี้ และผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่เป็นเยาวชนส่วนใหญ่ระบุถึงการใช้บุหรี่ไฟฟ้ากลิ่นผลไม้ และ เมนทอลหรือมินต์ที่ได้รับความนิยม
เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (ซีดีซี) รายงานว่า ใน 33 รัฐมีผู้ป่วยโรคปอดมากกว่า 450 รายในกลุ่มที่สูดไอระเหยของสารนิโคตินหรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับกัญชา ต่อมา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐแคนซัสเปิดเผยเมื่อวันอังคาร (10 ก.ย.) ว่า มีบุคคลรายที่ 6 ในสหรัฐเสียชีวิตจากโรคปอดที่เกี่ยวข้องกับการสูดไอระเหย