‘ศึกทีวีสตรีมมิง’ ทำผู้บริโภคกระเป๋าฉีก

อเมซอนเป็นผู้เล่นรายใหญ่เพียงรายเดียวที่ลงทุนในรายการกีฬานับจนถึงขณะนี้ แต่ก็ทำอย่างไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ด้วยการซื้อลิขสิทธิ์เอ็นเอฟแอล พรีเมียร์ลีก และเทนนิสเอทีพี

ขณะที่เน็ตฟลิกซ์และฮูลูยังไม่โดดร่วมวง อย่างไรก็ตาม กีฬากำลังเป็นรายการสำคัญที่แพลตฟอร์มใหม่ๆ ตั้งใจนำมาใช้เขย่าวงการทีวีออนดีมานด์ที่กำลังโตวันโตคืน

แพทริก ริช อาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยวอชิงตัน ในเมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี กล่าวว่า การแข่งขันกีฬาสร้างคนดูได้ดีที่สุด เป็นหนึ่งในปราการด่านสุดท้ายของรายการถ่ายทอดสด

แพลตฟอร์มใหม่ที่วอร์เนอร์มีเดียและดิสนีย์จะเปิดตัวก็เน้นเรื่องการถ่ายทอดกีฬาเช่นกัน โดยเมื่อเดือน ก.ค. วอร์เนอร์มีเดียประกาศว่าบริการเอชบีโอแม็กซ์ในระบบออนไลน์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นราวต้นปีหน้า จะถ่ายทอดบาสเก็ตบอลเอ็นบีเอและเบสบอลเมเจอร์ลีก

แรนดอลล์ สตีเฟนสัน ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของ “เอทีแอนด์ที” ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือและทีวีบอกรับสมาชิกใหญ่สุดรายหนึ่งของโลก บริษัทแม่ของวอร์เนอร์มีเดีย เผยว่า การถ่ายทอดสดกีฬาเป็นส่วนประกอบสำคัญของแพลตฟอร์ม

“ไม่ต้องสงสัยเลยว่าช่องที่มีรายการบันเทิงและกีฬาเติบโตแน่ การถ่ายทอดกีฬาช่วยเอชบีโอแม็กซ์ได้อย่างแน่นอน”

ด้านวอลท์ดิสนีย์ที่เคยสะเทือนวงการมาแล้วเมื่อเดือน เม.ย.2561 ด้วยช่องอีเอสพีเอ็นพลัส ช่องกีฬาแบบออนดีมานด์ ในอาณาจักรช่องกีฬาใหญ่สุดของโลก กำลังจะทำแบบนี้อีกครั้งด้วยการเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ในนาม “ดิสนีย์พลัส” วันที่ 12 พ.ย.นี้

ส่วนคนที่อยากดูทั้งอีเอสพีเอ็นพลัสและฮูลู จ่ายเพียง 12.99 ดอลลาร์ต่อเดือน เท่ากับแพ็กเกจเน็ทฟลิกซ์มาตรฐานในสหรัฐก็ดูได้แล้ว

“การถ่ายทอดสดกีฬาเป็นคอนเทนท์ที่ทรงคุณค่าที่สุดในจักรวาลของสื่อ เพราะประชาชนสนใจเรื่องอารมณ์ความรู้สึก กีฬาเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครเหมือน เพราะทำซ้ำไม่ได้” จอห์น สกิปเปอร์ อดีตประธานอีเอสพีเอ็นกลาวเมื่อปีก่อน

คำพูดดังกล่าวไม่เกินเลยนัก เพราะเมื่อปี 2561 รายการโทรทัศน์อเมริกัน 50 รายการที่มีคนดูมากที่สุด เป็นรายการกีฬา 43 รายการ

เมื่อผู้บริการแข่งขันกันอย่างดุเดือด ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อศึกสตรีมมิงรายแรกคงหนีไม่พ้นผู้บริโภคที่ต้องจ่ายกันกระเป๋าฉีก ตัวอย่างเช่น เมอรี มอนเตเนโกร คุณแม่ลูกสองวัย 36 ปี ที่เล็งบอกรับสมาชิกดิสนีย์พลัสเพิ่ม จากที่ดูเน็ตฟลิกซ์ ฮูลู และอะเมซอนอยู่แล้ว แค่ 3 เจ้าเธอต้องเสียค่าใช้จ่ายเกือบ 1,500 ดอลลาร์ต่อปี

วิกตอเรีย ลูกสาวคนโตวัย 6 ขวบ ถามทุกวันว่าเมื่อใดช่องใหม่จะเปิดตัว ที่นี่มีภาพยนตร์และซีรีส์จากดิสนีย์ทุกเรื่องมาฉายให้ชม

เมอรีรู้ดีว่า นับตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย.เป็นต้นไปเธอต้องจ่ายค่าบริการเพิ่มอีกเดือนละ 6.99 ดอลลาร์

สงครามสตรีมมิงตอนนี้มีดิสนีย์พลัส เอชบีโอแม็กซ์ (เอทีแอนด์ที) พีค็อก (คอมแคสต์) แอ๊ปเปิ้ลทีวีพลัส และควีบี แพลตฟอร์มวีดิโอสั้นช่องใหม่ กำลังห้ำหั่นกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ในช่วงที่คนอเมริกันชอบดูสตรีมมิงมากกว่าเคเบิลทีวี

ทอม นูนาน โปรดิวเซอร์เจ้าของรางวัลออสการ์ และอาจารย์วิทยาลัยละครเวที ภาพยนตร์ และโทรทัศน์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแองเจลิส (ยูซีแอลเอ) กล่าวว่า สิ่งนี้จะส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อค่าใช้จ่ายของประชาชน

“ผมไม่คิดว่าจะมีโอกาสมากพอให้คนอเมริกันโดยทั่วไปบอกรับสมาชิกแพลตฟอร์มเหล่านี้ทั้งหมด”

ผลการสำรวจของบริษัทตรวจสอบบัญชีดีลอยต์ เผยแพร่เมื่อเดือน มี.ค. พบว่า ผู้ให้ข้อมูล 69% เป็นสมาชิกบริการสตรีมมิงอย่างน้อย 1 แพลตฟอร์ม 65% ตอบเป็นสมาชิกเคเบิลทีวี

แม้หลายครัวเรือนเลิกดูเคเบิลหันไปหาสตรีมมิง แต่ 43% ที่สำรวจยังดูทั้งสองอย่าง ซึ่งผู้บริโภคอย่างเมอรีอยู่ในกลุ่มนี้

ก่อนหน้านี้ลอสแองเจลิสไทม์สเคยรายงานว่า บริการสตรีมมิงมี 40 รายค่าใช้จ่ายรวม 353.43 ดอลลาร์ต่อเดือน แต่ผลสำรวจของดีลอยต์พบว่า มีถึง 300 ราย ผู้ให้ข้อมูล 47% ไม่พอใจที่บริการบอกรับสมาชิกเพิ่มจำนวนขึ้น ทำให้พวกเขาหารายการดีๆ ที่อยากดูได้ยากกว่าเดิม

“ตอนแรกตัดสินใจไม่ยากหรอกเพราะมีแค่ 2 เจ้า ไม่เน็ตฟลิกซ์ก็อเมซอน แต่ตอนนี้ผมเป็นสมาชิก 6-7 ราย เป็นเรืื่องปกติ ผมก็งงตัวเองอยู่เหมือนกัน” นูนานกล่าว

จีน เดล เวคคิโอ อาจารย์ด้านการตลาด มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย (ยูเอสซี) เชี่ยวชาญด้านธุรกิจบันเทิงประเมินว่า สุดท้ายแล้วผู้ใช้จะโอดครวญแบบเดียวกันแล้วเลิกดูเคเบิลทีวี ที่ต้องจ่ายเงินจำนวนมากให้กับหลายๆ รายการที่ไม่ดู จากนั้นก็หันมาเลือกมาดูแบบเมนูตามสั่ง โดยให้เหตุผลว่า อยากดูเฉพาะรายการที่ชอบ ไม่อยากจ่ายเงินให้กับรายการที่ไม่เคยดูเลย

ตอนนี้อเมซอนเปิดให้ผู้ชมซื้อรายการเฉพาะตอนหรือซีซันส์ได้โดยไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกไพรม์วีดิโอ

นักวิชาการรายนี้มองด้วยว่า อัตราค่าสมาชิกจะเพิ่มขึ้นตลอดช่วง 10 ปีข้างหน้า เพื่อหาเงินมาทำรายการของตนเอง และผู้ให้บริการสตรีมมิงจะเลิกใช้กลยุทธ์แบบปัจจุบัน ที่ใช้บัญชีเดียวแบ่งกันดูในกลุ่มเพื่อนหรือคนในครอบครัว โดยผู้ให้บริการจะหาลูกค้ารายใหม่ที่ยอมจ่าย ส่วนกลยุทธ์อื่นๆ ก็เหมือนกับเคเบิลทีวี เป็นสมาชิกรายปีจะได้รับส่วนลด ตอนนี้ดิสนีย์พลัสและอเมซอนก็ทำไปแล้ว

“ก็เป็นอะไรที่ย้อนแย้ง อีก 5 หรือ 10 ปีนับจากนี้ สตรีมมิงจะเหมือนกับอุตสาหกรรมเคเบิลทีวี” เดล เวคคิโอ คาดการณ์