อินเดียคุมเข้มหวั่นศึกแย่ง'อโยธยา'
อินเดียเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ความมั่นคงอีกหลายพันนาย พร้อมจัดอาสาสมัครดิจิทัลอีกราว 16,000 คน เฝ้าระวังโพสต์ยั่วยุก่อนศาลฎีกาพิพากษาคดีพิพาทมัสยิดในเมืองอโยธยา
ชาวฮินดูและมุสลิมในอินเดียขัดแย้งกันมานานหลายสิบปี เรื่องมัสยิดบาบรี สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ในเมืองอโยธยา รัฐอุตตรประเทศ ที่ชาวฮินดูเชื่่อว่าเป็นสถานที่เกิดของพระราม
ความตึงเครียดระอุเมื่อปี 2535 เมื่อชาวฮินดูสุดโต่งทำลายมัสยิด กลายเป็นความรุนแรงระหว่างชนต่างศาสนา คร่าชีวิตประชาชนไปถึง 2,000 คน ซึ่งในวันที่ 17 พ.ย.นี้ นายรันจัน โกโกอี หัวหน้าคณะผู้พิพากษาศาลฎีกา จะตัดสินก่อนเกษียณอายุว่า ใครกันแน่จะได้ครอบครองพื้นที่นี้
นายอาชิส ทิวารี ผู้บังคับการตำรวจอโยธยา เผยว่าทางการระดมกำลังเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานมาเพิ่มเติม ประจำการทั้งในและรอบๆ อโยธยา รวมทั้งเพิ่มรถตรวจการ กล้องวงจรปิด กล้องติดตัวเจ้าหน้าที่ และโดรน
“ตำรวจใช้วิธีอื่นๆ ร่วมด้วย เพื่อสร้างหลักประกันว่าสถานการณ์เป็นไปโดยสงบ โดยจัดอาสาสมัครดิจิทัลราว 16,000 คน จาก 1,600 หมู่บ้านในพื้นที่ มาช่วยตรวจตราดูแลเนื้อหาอ่อนไหวบนโซเชียลมีเดีย เมื่อเจอเนื้อหาไม่เหมาะสมก็แจ้งตำรวจ ให้ไปหาตัวผู้โพสต์เพื่อจัดการลบโพสต์หรือข้อความนั้นไป”
อโยธยา เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิแห่งหนึ่งในศาสนาฮินดู ผู้แสวงบุญจากทั่วอินเดียมาเยือนตลอดทั้งปี คาดว่าต้นสัปดาห์หน้าจะมีผู้แสวงบุญราว 1 ล้านคนมาอาบน้ำในแม่น้ำสรายุ เจ้าหน้าที่จำต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ก่อนหน้านี้ศาลอุทธรณ์เคยพิพากษาไว้เมื่อปี 2553 ให้ชาวฮินดูและมุสลิมแบ่งกันครองพื้นที่ โดยชาวฮินดูได้สัดส่วนมากกว่า พวกเขาหลายคนเชื่อว่า มัสยิดบาบรีอายุ 460 ปี สร้างขึ้นหลังจากทำลายวัดเก่าไปแล้ว
ขณะที่พรรคชาตินิยมฮินดูของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี รณรงค์ให้สร้างวัดใหม่บนพื้นที่มัสยิดที่ถูกทิ้งร้างมานานหลายสิบปี