‘ไต้หวันช่วยได้’ บริจาคหน้ากาก 10 ล้านชิ้น

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน แถลงข่าวเคียงข้างนายโจเซฟ อู๋ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เรื่องการบริจาคหน้ากากอนามัย 10 ล้านชิ้น 

“หลายเดือนที่ผ่านมา เราได้เห็นการกระทำอย่างกล้าหาญและเสียสละอย่างเหลือคณานับจากเจ้าหน้าที่แพทย์ทั่วโลก นี่คือหน้าที่ของเราในฐานะพลเมืองโลกที่ต้องสนับสนุนเขาอย่างเต็มที่ เราจำเป็นต้องเพิ่มความร่วมมือ นั่นหมายถึงการแบ่งปันประสบการณ์ วัสดุ และทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาวัคซีนและการรักษา เราจะบริจาคหน้ากากอนามัยและวัสดุอื่นๆ ที่เรามีเกินพอให้กับพันธมิตรและประเทศ ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากโควิด-19 อุปกรณ์เหล่านี้จะส่งไปให้เจ้าหน้าที่แพทย์แนวหน้า ผู้ต้องทำงานแข่งกับเวลาเพื่อรักษาชีวิตมนุษย์” ประธานาธิบดีไต้หวันกล่าว

กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันแถลงว่า หน้ากากอนามัย 7 ล้านชิ้นจะส่งไปให้ยุโรป รวมทั้งสเปน อิตาลี และอังกฤษ 2 ล้านชิ้นส่งไปสหรัฐ ที่เหลือส่งไปยังกลุ่มประเทศเล็กๆ ที่ยังมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวัน

“ไต้หวันช่วยได้ และไต้หวันกำลังช่วย” นายโจเซฟ อู๋ รัฐมนตรีต่างประเทศยืนยัน 

ชาวไต้หวันใช้หน้ากากกันอย่างกว้างขวางในช่วงที่ไวรัสระบาดหนัก รัฐบาลสั่งห้ามส่งออกหน้ากากอนามัยตั้งแต่ช่วงแรกๆ แต่ตอนนี้ยืนยันว่ามีใช้ภายในเหลือเฟือแล้วสามารถบริจาคส่วนที่เหลือใช้ได้

และตั้งแต่วันนี้ (1 เม.ย.) เป็นต้นไป ทางการประกาศให้ผู้ใช้บริการขนส่งสาธารณะทุกชนิดต้องสวมหน้ากาก แม้ว่าประชาชนแทบทุกคนต่างสวมหน้ากากกันอยู่แล้ว

ไต้หวันที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 329 คน เสียชีวิต 5 คน ได้รับคำชมเชยว่าออกมาตรการควบคุมไวรัสอย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับเพื่อนบ้านหลายราย

อย่างไรก็ตามการต่อสู้ไวรัสของไต้หวันมีมิติทางการทูตเข้ามาเกี่ยวข้องเนื่องจากจีนกดดันประชาคมโลกให้กีดกันไต้หวัน ที่จีนมองว่า เป็นดินแดนของตนไม่มีสิทธิใดๆ ในฐานะรัฐชาติ

ที่ผ่านมาไต้หวันพยายามเสนอตัวแบ่งปันความรู้และประสบการณ์กับโลก ตามโครงการ “ไต้หวันช่วยได้” ตอนนี้ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวินเริ่มลงมือทำอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงการบริจาคหน้ากากอนามัย