คำต่อคำ! 'ลี แจ ยอง' ทายาท 'ซัมซุง' ขอโทษสังคมปมติดสินบนฉาว

นายลี แจ-ยอง รองประธานบริษัทซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ แถลงที่สำนักงานซัมซุงในกรุงโซลของเกาหลีใต้ แสดงความเสียใจที่กลุ่มบริษัทซัมซุงไม่ได้ทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และรักษาไว้ซึ่งจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ

“แม้บริษัทซัมซุงเป็นที่ยอมรับด้านเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ชั้นยอด แต่มุมมองของสังคมที่มีต่อซัมซุงก็ยังเป็นสิ่งสำคัญ” นายลีกล่าว “ทั้งหมดนี้เป็นเพราะความล้มเหลวของเรา นี่คือความผิดของผมเอง และผมอยากขอโทษจากใจจริง”

รองประธานซัมซุง สัญญาด้วยว่า จะไม่มีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการบริหารงานของเขาอีก “ผมจะไม่มีวันกระทำการใด ๆ ที่ผิดกฎหมายอีกแล้ว”

นายลี ซึ่งถือเป็นผู้บริหารสูงสุดของซัมซุงโดยพฤตินัย ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีติดสินบนซึ่งพัวพันถึงอดีตประธานาธิบดีปาร์ค กึน-เฮ ที่ถูกปลดจากตำแหน่งเมื่อปี 2560 และถูกศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 5 ปีในปีเดียวกัน ก่อนจะได้รับการปล่อยตัวในปีถัดมา เนื่องจากศาลอุทธรณ์สั่งยกฟ้องเกือบทุกข้อหาในคดีจ่ายสินบน ส่วนโทษจำคุกในความผิดอื่น ๆ ให้รอลงอาญา

อัยการเกาหลีใต้ระบุว่า การกระทำดังกล่าวของนายลี มีเป้าหมายเพื่อให้รัฐบาลในขณะนั้นอนุมัติแผนควบรวมกิจการ ซัมซุง ซีแอนด์ที คอร์ป และ เชอิล อินดัสทรีส์ ในปี 2558 ซึ่งถือเป็นกระบวนการสำคัญที่จะทำให้การถ่ายโอนอำนาจบริหารสู่มือนายลีเป็นไปอย่างราบรื่น หลังจากเข้ามาดูแลอาณาจักรธุรกิจแทนบิดาคือ นายลี กุน-ฮี ประธานซัมซุง ที่ล้มป่วยด้วยโรคหัวใจตั้งแต่ปี 2557

นอกจากนี้ ผู้บริหารซัมซุงทั้งอดีตและปัจจุบันหลายคนถูกสอบสวนหรือถูกตัดสินว่ามีความผิดในหลายคดี เช่น นายลี ซัง-ฮุน อดีตประธานบอร์ดบริหารซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ซึ่งถูกศาลสั่งจำคุกเมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว ในความผิดฐานบ่อนทำลายกิจกรรมของสหภาพแรงงาน

นายลี ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูล ยืนยันด้วยว่า เขาจะไม่มอบอำนาจบริหารให้แก่ลูก ๆ ของตน

“ผมไม่มีแผนที่จะมอบสิทธิ์ในการบริหารกิจการให้แก่ลูก ๆ ผมคิดเรื่องนี้มานานแล้ว แต่ลังเลอยู่ว่าควรจะเปิดเผยต่อสาธารณชนดีหรือไม่”

นายลี ผู้พ่อ ถือเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในเกาหลีใต้ และอันดับ 65 ของโลกจากการจัดอันดับมหาเศรษฐีพันล้านโดยบลูมเบิร์ก ด้วยมูลค่าสินทรัพย์ราว 1.57 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่นายลี แจ-ยอง มีมูลค่าสินทรัพย์ของตัวเองราว 5,700 ล้านดอลลาร์

หลังแถลงจบ นายลีได้โค้งคำนับ 3 ครั้งต่อหน้ากองทัพสื่อมวลชนจำนวนมาก ซึ่งนั่งเว้นระยะห่างจากกันภายใต้กฎ social distancing เพื่อป้องกันความเสี่ยงติดโรคโควิด-19

อย่างไรก็ตาม บรรดานักวิจารณ์ มองว่า คำขอโทษของนายลีครั้งนี้ เป็นกลยุทธ์ของซัมซุงที่จะโน้มน้าวศาลให้ยืนคำพิพากษารอลงอาญา หลังจากที่ศาลสูงสุดเกาหลีใต้สั่งทบทวนคำพิพากษาดังกล่าวเมื่อเดือน ส.ค. ปีที่แล้ว ซึ่งอาจส่งผลให้ทายาทซัมซุงต้องรับโทษหนักขึ้น หรือถูกส่งตัวกลับเข้าเรือนจำอีกครั้ง