‘สหรัฐ’ ส่อแววระบาดโควิด-19 รอบสอง
“สหรัฐ” พบผู้ติดโควิด-19 ในแต่ละรัฐเพิ่มต่อเนื่อง แน่นห้องไอซียู และมีแนวโน้มไวรัสจะกลับมาระบาดรอบสอง
มีรายงานว่า รัฐต่างๆ ของสหรัฐ รวมถึงเท็กซัสและแอริโซนากำลังเผชิญกับจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นตามโรงพยาบาล ซึ่งทำให้เกิดความวิตกว่า การเปิดเศรษฐกิจสหรัฐอีกครั้งอาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) รอบสอง
เว็บไซต์ worldometer รายงานว่า วันที่ 12 มิ.ย. 2563 สหรัฐพบผู้ติดโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 2,089,701 ราย เสียชีวิต 116,034 ราย และรักษาหายแล้ว 816,086 ราย
ทั้งนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อที่พุ่งขึ้นในรัฐต่างๆ หลายสิบรัฐของสหรัฐนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีการทดสอบหาผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น แต่ในหลายรัฐนั้น มีจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น และในบางรัฐก็เริ่มที่จะไม่สามารถรองรับผู้ป่วยหนักที่ต้องเข้าห้องไอซียู
รัฐเท็กซัสมีจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลสูงเป็นประวัติการณ์เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน และในรัฐนอร์ทแคโรไลนานั้น เหลือจำนวนเตียงไอซียู เพียง 13% เนื่องมาจากการรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรง
ขณะที่นายกเทศมนตรีเมืองฮิวสตันเปิดเผยว่า ได้เตรียมพร้อมที่จะเปิดสนามฟุตบอล NFL เป็นโรงพยายาลชั่วคราว หากจำเป็นรัฐแอริโซนามีจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 1,291 ราย โดยผู้อำนวยการด้านสาธารณสุขของรัฐได้แจ้งกับโรงพยาบาลต่างๆ ในสัปดาห์นี้ให้ใช้แผนฉุกเฉิน และเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้ป่วยไอซียู ขณะที่เว็บไซต์ของรัฐระบุว่า เตียงไอซียู ประมาณ 75% รองรับผู้ป่วยจนเต็มแล้ว
ด้านนายแพทย์แอนโธนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐ และเป็นนายแพทย์ใหญ่ของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการควบคุมไวรัสโควิด-19 ของทำเนียบขาวกล่าวว่า โดยรวมแล้ว สหรัฐมีจำนวนผู้ติดเชื้อลดลง แต่ขณะนี้บางรัฐมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าวิตก
เช่นเดียวกับ จาเรด แบเทน นักระบาดวิทยาของมหาวิทยาลัยวอชิงตันระบุว่า สิ่งที่น่าตกใจจะเกิดขึ้น หากจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 เริ่มที่จะเพิ่มขึ้นในรัฐที่การแพร่ระบาดได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และอยู่ในแนวโน้มขาลง อาทิ รัฐนิวยอร์กและรัฐทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตรายใหม่ร่วงลง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐแอริโซนา, ยูทาห์และนิว เม็กซิโกรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 40% หรือมากกว่าในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 มิ.ย. เมื่อเทียบกับ 7 วันก่อนหน้า ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 30% ในสัปดาห์ที่ผ่านมาในรัฐฟลอริดา, อาร์คันซอ, เซาท์แคโรไลนา และนอร์ทแคโรไลนา อีกด้วย