IEA ชี้ โควิดฉุดความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกลด 8%
สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ คาด โควิด-19 ฉุดความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกต่อวัน ในปี 63 ลดลง 8% เป็นผลสะท้อนอุตสาหกรรมการบินชะงัก ขาดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้านพลังงาน
สำนักข่าววีโอเอ รายงานว่า สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) คาดว่า ความต้องการใช้น้ำมันเฉลี่ยต่อวันของโลก ในปี 2563 จะลดลง 8% จากปีก่อน คือลดลงราว 8 ล้านบาร์เรลต่อวัน
แม้ความต้องการใช้น้ำมันในปีหน้า มีแนวโน้มอาจจะเพิ่มขึ้น แต่ก็เชื่อว่าจะยังอยู่ในระดับต่ำกว่าของเมื่อปี 2562 จากความไม่แน่นอนของอุตสาหกรรมการบิน และนอกจากการเปลี่ยนความคิดและความต้องการเกี่ยวกับการเดินทางๆ อากาศระหว่างประเทศที่เปลี่ยนไปแล้วปัจจัยอีกอย่างซึ่งอาจมีผลต่อความต้องการใช้เชื้อเพลิงประเภทฟอสซิล คือ การเร่งพัฒนาพลังงานสะอาดเพื่อใช้ทดแทน
ไมเคิล แบรดฟอร์ดจากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยวอร์วิก ของอังกฤษ ชี้ว่า ขณะนี้กลุ่มด้านสิ่งแวดล้อมกำลังเร่งผลักดันเพื่อให้แน่ใจว่าข้อตกลงกรุงปารีสจะไม่ได้รับผลกระทบที่เสียหายจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมทั้งได้พยายามกดดันเรื่องการใช้พลังงานทดแทนเพื่อช่วยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจด้วย
“หากความพยายามของกลุ่มด้านสิ่งแวดล้อมเป็นผลสำเร็จ เราก็จะไม่ได้เห็นความต้องการใช้น้ำมันของโลกในระดับเหมือนในช่วงก่อนโรคโควิด-19 อีกต่อไป” แบรดฟอร์ดกล่าวเตือน
มีรายงานว่า ขณะนี้อุตสาหกรรมน้ำมันก็มีปัญหาท้าทายหลายด้าน โดยเฉพาะจากนักลงทุน และบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการพลังงานก็กำลังเตรียมรับมือกับเรื่องนี้ เช่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วบริษัท Royal Dutch Shell ได้ประกาศตั้งงบสำรอง 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อเตรียมรับสภาพความเป็นจริงหากราคาและความต้องการน้ำมันลดลง และเมื่อเดือนที่แล้วบริษัทน้ำมัน BP ก็ลดการประเมินมูลค่าทรัพย์สินของตนลงราว 1.75 หมื่นล้านดอลลาร์เช่นกัน