‘เอ็กซิบิชั่นเสมือนจริง’ จัดเวทีเจรจานักธุรกิจทั่วโลก

‘เอ็กซิบิชั่นเสมือนจริง’ จัดเวทีเจรจานักธุรกิจทั่วโลก

"ฮ่องกง" ลุยจัดเวทีงานแสดงนิทรรศการแสดงสินค้าเสมือนจริง บนแพลตฟอร์มออนไลน์ หวังปรับกลยุทธ์ส่งเสริมการค้าให้ผู้ประกอบการทั่วโลก ฝ่าวิกฤติโควิด-19

สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เป็นอุปสรรคการดำเนินธุรกิจไปทั่วโลก ทำให้องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) ต้องปรับกลยุทธ์ส่งเสริมการค้าให้กับผู้ประกอบการธุรกิจทั่วโลกได้พบปะกันในเวทีงานแสดงนิทรรศการแสดงสินค้าเสมือนจริง (Virtual Exhibition) ซึ่งย้ายมาอยู่ในแพลตฟอร์มออนไลน์ ภายใต้งาน “Summer Sourcing Weeks | Go ONLINE” ที่นำระบบอัจฉริยะเอไอเข้ามาใช้ในงาน ช่วยบริการแนะนำสินค้าและจับคู่ธุรกิจให้ผู้จัดหาสินค้ากับผู้ซื้อสามารถปิดการขายเพิ่มเติมได้มากยิ่งขึ้น 

เบนจามิน เชาว์ รองผู้อำนวยการบริหาร HKTDC กล่าวว่า งานแสดงสินค้าครั้งนี้เป็นงานเอ็กซิบิชั่นเสมือนจริงแบบ 9-in-1 นำผู้ประกอบการธุรกิจฮ่องกง ไทย และทุกประเทศทั่วโลกมาร่วมแสดงสินค้ามากกว่า 1,300 ราย ทั้งธุรกิจด้านแสงไฟ อิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) การแพทย์และผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ เครื่องใช้ในบ้าน แฟชั่น เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายในบ้าน ของขวัญ สิ่งตีพิมพ์และสินค้าบรรจุภัณฑ์

159622833964

โดยแพลตฟอร์มนิทรรศการออนไลน์รูปแบบใหม่นี้จะช่วยดึงดูดผู้ซื้อจากทั่วโลก และช่วยผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมได้สำรวจโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ในช่วงการระบาดโควิดที่หลายประเทศยังล็อกดาวน์ ไม่เปิดเศรษฐกิจเมือง 

แม้ว่าการระบาดใหญ่ของโควิด-19 จะนำความท้าทายครั้งใหญ่มาสู่ธุรกิจทั่วโลก แต่ก็นำพาโอกาสทางธุรกิจออนไลน์มาให้ผู้ประกอบการด้วยเช่นเดียวกัน ทางองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกงให้การส่งเสริมรูปแบบออนไลน์ที่หลากหลาย ก่อนหน้านี้ได้นำร่องจัดการแสดงสินค้าผ่านออนไลน์เป็นเวทีขนาดเล็กชื่อ Spring Virtual Expo ในเดือน เม.ย. และงาน Summer Virtual Expo ในช่วงปลายเดือน มิ.ย.-ก.ค. เพื่อช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และผู้ซื้อจากต่างประเทศ เอาชนะความท้าทายในช่วงเวลาอันยากลำบากนี้ไปด้วยกัน 

"งาน Summer Sourcing Weeks | Go ONLINE นิทรรศการเสมือนออนไลน์ขั้นสูง เป็นเวทีเพิ่มการเชื่อมต่อทางธุรกิจระหว่างผู้แสดงสินค้าทั่วโลกและผู้ซื้อ เริ่มตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 7 ส.ค.นี้ โดยภายในงานยังใช้ฟีเจอร์แพลตฟอร์มการจับคู่ทางธุรกิจ Click2Match ที่ทำงานด้วยระบบเอไอ เพื่อช่วยเอสเอ็มอีสร้างโอกาสและการจับคู่ธุรกิจกันได้มากขึ้น” เชาว์ ระบุ 

เวทีงานแสดงสินค้าดังกล่าว เป็นหนึ่งในโครงการขององค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง เพื่อช่วยขยายขีดความสามารถด้านอีคอมเมิร์ซของธุรกิจฮ่องกง และมุ่งส่งเสริมสนับสนุนเอสเอ็มอีให้พร้อมรับกับเศรษฐกิจดิจิทัล นอกเหนือจากนี้ยังเสริมสร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่งกับคู่ค้าทางเทคโนโลยีเป็นจำนวนมาก เพื่อให้บริษัทฮ่องกงเตรียมความพร้อมรับมือด้านดิจิทัลให้เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด

เชาว์ เล่าด้วยว่า ในส่วนแพลตฟอร์มจับคู่ทางธุรกิจในรูปแบบเทคโนโลยีเอไอได้เริ่มลองใช้ในงาน Summer Virtual Expo พบว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก ช่วยให้ผู้จัดหาสินค้ามากกว่า 2.2 หมื่นราย สามารถติดต่อกับผู้ซื้อจากทั่วโลก ซึ่งจำนวนผู้ซื้อที่ค้นหาข้อมูลจากตลาดออนไลน์ hktdc.com Sourcing เพิ่มขึ้นเกือบ 20% คิดเป็น 4.2 ล้านดอลลาร์ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และจากความสำเร็จ ณ จุดนี้ HKTDC มีไอเดียจะฟื้นตลาดออนไลน์ hktdc.com Sourcing ที่ได้เปิดก่อนนี้ให้มีความทันสมัยและเปิดตัวอีกครั้งในปลายปี 2563

“แพลตฟอร์มการจับคู่ทางธุรกิจ Click2Match ที่ใช้บิ๊กดาต้าและเทคโนโลยีเอไอทำงานโดยอัตโนมัติ ควบคู่กับฟังก์ชันต่างๆ ที่ครอบคลุมไปถึงการประชุมวางแผนงาน การประชุมทางวีดิโอ การสนทนาแบบตอบโต้ทันที และการสัมมนาออนไลน์ ภายใต้การดำเนินงานโดยผู้เชี่ยวชาญ ทั้งหมดนี้ได้เตรียมไว้สำหรับผู้ซื้อและผู้แสดงสินค้าให้สามารถพูดคุยสื่อสารกันได้ เข้าถึงแหล่งออนไลน์ได้ดียิ่งขึ้น” รอง ผอ.องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง ระบุ

เชาว์ยังยกตัวอย่างไฮไลต์ที่น่าสนใจที่ได้เกิดขึ้นในงาน อาทิ งานสัมมนา “Tech Trends Symposium 2020-อนาคตของการเชื่อมต่ออัจฉริยะ” ซึ่งกล่าวถึงเทคโนโลยี 5G ที่กำลังมาแรงที่จะช่วยเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทุกสรรพสิ่ง (ไอโอที) เข้ากับแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน  ระบบเอไอ และสมาร์ทโฮม ทั้งนี้เพื่อมุ่งสร้างความเปลี่ยนแปลงและไลฟ์สไตล์คนในสังคม

นอกจากนี้ ภายในงานนิทรรศการออนไลน์ยังนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สามารถป้องกันและควบคุมโรคที่หลากหลาย ในโซน Smart Health Hong Kong จัดแสดงผลิตภัณฑ์สินค้าหลากหลายในหมวดสินค้าดูแลสุขภาพที่พัฒนาขึ้นจากท้องถิ่น รวมถึงสารเคลือบต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส หุ่นยนต์ฆ่าเชื้อ ตัวกรองอากาศนาโนเทคโนโลยี เครื่องฆ่าเชื้อในอากาศ ระบบคัดกรองอุณหภูมิร่างกายที่ใช้ระบบเอไอ เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเทคโนโลยีการติดตาม และการกักกันตัว

อีกทั้งความจำเป็นที่ต้องทำธุรกิจแบบ stay-at-home ยังเป็นตัวขับเคลื่อนความต้องการของผู้บริโภคต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ความบันเทิงภายในบ้าน ทั้งหมดนี้สามารถพบได้ในงานแสดงสินค้าเสมือนนั้นมีผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฮมและไลฟ์สไตล์

เชาว์ กล่าวในตอนท้ายว่า แม้ว่าขณะนี้หลายประเทศยังไม่คลายล็อกดาวน์ทั้งหมดและเปิดเศรษฐกิจเมือง แต่งานแสดงสินค้าเสมือนจริงครั้งนี้จะเป็นทางเลือกให้ผู้ประกอบการทั่วโลกได้มาพบปะกัน เพื่อตอกย้ำว่าโรคระบาดไม่อาจเป็นอุปสรรคต่อนักธุรกิจมืออาชีพได้