แพทย์เตือน ‘ดูเตอร์เต' ฟิลิปปินส์ พ่ายสงครามโควิด
กลุ่มแพทย์หลายสิบองค์กรเตือนฟิลิปปินส์กำลังพ่ายแพ้ในสงครามต้านโควิด-19 จี้ประธานาธิบดีดูเตอร์เต กระชับมาตรการล็อกดาวน์ที่เพิ่งผ่อนคลายไปให้เข้มงวดยิ่งขึ้น หลังยอดติดเชื้อพุ่ง รพ.ไม่รับคนไข้
สมาคมแพทย์ 18 องค์กร ตัวแทนแพทย์ฟิลิปปินส์หลายหมื่นคนลงนามในจดหมายเปิดผนึก หลังจากวานนี้ฟิลิปปินส์มียอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ กว่า 4,000 คน ส่งผลยอดรวมทั้งประเทศกว่า 93,000 คน
เนื้อความในจดหมายระบุว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขรวมพลังกันส่งเสียงเตือนถึงสัญญาณอันน่าเป็นห่วงต่อประเทศชาติ ระบบสาธารณสุขฟิลิปปินส์ล้นแล้ว
“เรากำลังพ่ายแพ้ศึกต้านโควิด-19 และจำเป็นต้องร่างแผนปฏิบัติการที่ชัดเจนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน”
จดหมายระบุด้วยว่า ขณะนี้จำนวนบุคลากรทางการแพทย์ที่ล้มป่วยหรือลาออกจากงานเพิ่มมากขึ้นทุกที พร้อมกันนั้นโรงพยาบาลบางแห่งไม่ยอมรับผู้ป่วยรายใหม่แล้ว การตามรอยโรคล้มเหลวอย่างมาก บรรยากาศของรถสาธารณะและสถานประกอบการก็ไม่ค่อยปลอดภัย
คณะแพทย์เรียกร้องให้ประธานาธิบดีดูเตอร์เตกลับไปล็อกดาวน์กรุงมะนิลาและจังหวัดโดยรอบ จนถึงวันที่ 15 ส.ค. เพื่อให้ประเทศมีเวลาตกผลึกยุทธศาสตร์ควบคุมการแพร่ระบาด
นายแฮร์รี โรค โฆษกประจำตัวนายดูเตอร์เต แถลงว่า รัฐบาลกำลังสร้างสมดุลระหว่างสุขภาพกับเศรษฐกิจของชาติ
“การล็อกดาวน์มหานครมะนิลาตอบสนองวัตถุประสงค์ และเราจำเป็นต้องเพิ่มความเข้มข้นให้ยุทธศาสตร์อื่น” โฆษกระบุ
ฟิลิปปินส์ใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดที่สุดในโลกประเทศหนึ่งเมื่อกลางเดือน มี.ค. สั่งให้ประชาชนอยู่บ้าน ออกมาข้างนอกได้เฉพาะซื้ออาหารหรือไปพบแพทย์เท่านั้น แต่รัฐบาลต้องผ่อนคลายข้อจำกัดเมื่เร็วๆ นี้ ยอมให้ประชาชนกลับมาทำงาน หลังจากคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจฟิลิปปินส์จะเข้าสู่ภาวะถดถอย และประชาชนหลายล้านคนตกงานไปเรียบร้อยแล้ว
ไม่กี่วันก่อน กระทรวงสาธารณสุขยอมรับว่า เตียงว่างในโรงพยาบาลลดน้อยลงทุนที รัฐบาลจำกัดการว่าจ้างแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์รายใหม่
นายเล อัลฟอนโซ เจ้าหน้าที่จากสมาคมแพทย์สาธารณสุขฟิลิปปินส์ แถลงว่า พัฒนาการในฟิลิปปินส์จะผลักให้ประเทศเสี่ยงเป็นนิวยอร์กรายต่อไป ที่ผู้ป่วยโควิดต้องเสียชีวิตในบ้านหรือบนเปลพยาบาล