'ราคาทอง' พุ่งทะลุแนว 1,970 ดอลล์ นักลงทุนประเมินผลกระทบ 'เฟด'
ราคาทองคำฟิวเจอร์กลับมาดีดตัวแรงกว่า 42 ดอลลาร์ในวันศุกร์ (28 ส.ค.) หลังนักลงทุนเริ่มประเมินผลกระทบต่อทองคำหลัง "เฟด" ปรับนโยบายการเงิน
สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือน ธ.ค. ในตลาดนิวยอร์ก เพิ่มขึ้น 42.30 ดอลลาร์ (2.2%) ปิดที่ 1,974.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ราคาทองกลับมาพุ่งแรงอีกครั้งในวันศุกร์ หลังจากบรรดานักลงทุนเริ่มประเมินผลกระทบต่อราคาทองจากการปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อวันพฤหัสบดี (27 ส.ค.) ซึ่งฉุดราคาทองร่วงในวันเดียวกันเกือบ 20 ดอลลาร์
นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลาง (เฟด) ประกาศว่า เฟดจะเปลี่ยนแนวทางในการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อ เพื่อเปิดทางให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นมากกว่าเดิมเพื่อสนับสนุนตลาดแรงงาน และเศรษฐกิจสหรัฐ
การประกาศปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินดังกล่าวจะส่งผลให้เฟดไม่ต้องรีบขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่ออัตราว่างงานลดลง ตราบใดที่อัตราเงินเฟ้อไม่ได้ดีดตัวขึ้น
นายพาวเวล กล่าวว่า เฟดจะใช้เครื่องมือใหม่ที่เรียกว่า "เป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย" ซึ่งจะทำให้อัตราเงินเฟ้อมีความยืดหยุ่น และสามารถดีดตัวขึ้นเหนือ 2% แทนที่จะกำหนดเป้าหมายตายตัวที่ 2%
"ราคาทองขึ้นลงผันผวนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนพยายามถอดรหัสว่า การเปลี่ยนยุทธศาสตร์เกี่ยวกับเงินเฟ้อของเฟดนั้นจะส่งผลอย่างไรต่อทองคำ" นายฮัน ตัน นักวิเคราะห์ตลาดจากบริษัท FXTM ระบุ
ทองคำถือเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ทำราคาดีที่สุดในปีนี้ โดยพุ่งถึง 28% นับตั้งแต่เข้าปี 2563 ขานรับเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง การผ่อนคลายนโยบายการเงิน และการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของบรรดาธนาคารกลางทั่วโลก
นอกจากนี้ นักลงทุนพากันเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยขณะนี้ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อกว่า 24 ล้านราย และมียอดผู้เสียชีวิตมากกว่า 8 แสนราย