‘อุปทูตจีน’ ตอกย้ำสัมพันธ์ไทย - ฝ่าโควิดในวันชาติจีน
“อุปทูตจีน” ย้ำสัมพันธ์ไทยในวันชาติจีน ชี้ การค้าสองประเทศโตสวนกระแสโควิด สูงถึง 6.7% และลงทุนเพิ่มกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท
นายหยาง ซิน อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูตจีน ประจำประเทศไทย กล่าวสุนทรพจน์ในงานรับรองออนไลน์ เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ71 ปี แห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนว่า ในระยะเวลา 71 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งได้สร้างประวัติการณ์มั่นคั่งแบบก้าวกระโดด กระทั่งเป็นประเทศจีนที่แข็งแกร่ง
เมื่อครั้งเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างไม่คาดคิด คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งมีเลขาธิการใหญ่ สี จิ้นผิงเป็นศูนย์กลาง ได้รวบรวมพลังประชาชนทั่งประเทศ เพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดอย่างแข็งขัน จนสามารถผ่านการทดสอบแสนยากเย็นลำบากในประวัติศาสตร์ ได้ทุ่มเทกำลังมหาศาล จนประสบความสำเร็จเชิงยุทธศาสตร์อันสำคัญในการต่อสู้กับโควิด-19 ซึ่งถือได้ว่าเป็นการสร้างปาฏิหาริย์อีกครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การต่อสู้กับโรคระบาดของมวลมนุษย์
"ในช่วงเวลาที่ผ่านมา จีนได้รวบรวมสรรพกำลังประเทศในทุกมิติเพื่อผลักดันประเทศให้มั่นคง ปัจจุบันเศรษฐกิจมวลรวมของประเทศได้เพิ่มขึ้นจาก 6 หมื่นกว่าล้านหยวนในช่วงเริ่มต้นการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน มาเป็นเกือบ 100 ล้านล้านหยวนในปี 2562 จีนได้กลายเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลก" อุปทูตจีนกล่าว
อีกทั้ง จีนเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุด ประเทศผู้ค้าสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใหญ่ที่สุด ประเทศที่มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมากที่สุด และประเทศที่มีเงินทุนไหลเข้ามากเป็นอันดับที่ 2 ของโลก ปัจจุบัน เศรษฐกิจจีนยังขยายตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจีนจะเป็นเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจใหญ่ทั่วโลกที่เศรษฐกิจเติบโตขึ้นได้ในปีนี้ ซึ่งจะเพิ่มความเชื่อมั่นและแรงขับเคลื่อนให้กับการพัฒนาของเศรษฐกิจโลกอย่างต่อเนื่อง
นายหยาง ซิน กล่าวว่า คุณภาพชีวิตของประชาชนจีนยกระดับขึ้นอย่างมาก อายุเฉลี่ยของชาวจีนโดยการคาดการณ์เพิ่มขึ้นจาก 35 ปีเป็น 77 ปี การปฏิรูปและเปิดประเทศทำให้ผู้คนกว่า 750 ล้านคนหลุดพ้นจากความยากจน อัตราการศึกษาภาคบังคับ 9 ปีสูงถึง 94.2% ประกันสุขภาพครอบคลุมประชาชนมากกว่า 1300 ล้านคน และประกันพื้นฐานสำหรับผู้สูงวัยครอบคลุมประชาชนมากกว่า 960 ล้านคน ค่าพยาบาลในการรักษาโควิด-19ในครั้งนี้ รัฐบาลจีนเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด ปัจจุบัน เรากำลังยืนอยู่บนจุดสำคัญทางประวัติศาสตร์ในการบรรลุเป้าหมายแห่งการ “ครบรอบ 100 ปี สองวาระ” เราต้องรวบรวมกำลังเอาชนะความยากลำบาก สร้างสังคมอยู่ดีมีสุขอย่างรอบด้านให้สำเร็จ ทำให้การขจัดความยากจนสมบูรณ์ ซึ่งเป็นความปรารถนาร่วมกันของประชาชาติจีนที่มีมายาวนาน กลายเป็นความจริงได้
สถานะของประเทศจีนในสังคมโลกสูงขึ้นอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ประเทศจีนยึดมั่นในนโยบายต่างประเทศที่สันติและเป็นตัวของตัวเอง ทุ่มเทกำลังในการพัฒนาความร่วมมือฉันท์มิตรกับนานาประเทศ กำลังเข้าไปในจุดกลางของเวทีโลกมากขึ้นทุกวัน
ปัจจุบัน ภายใต้สถานการณ์อันซับซ้อนที่มีทั้งโควิด-19แพร่ระบาดทั่วโลกและการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบศตวรรษ เราได้ยึดมั่นในแนวคิดการต่างประเทศ สี จิ้นผิงเป็นหลัก มุ่งมั่นในทฤษฎีประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันแห่งมวลมนุษยชาติ ร่วมมือกับสังคมโลกในการรับมือกับความท้าทาย
เมื่อไม่นานมานี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้กล่าวสุนทรพจน์ที่สำคัญในการอภิปรายทั่วไปที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติครั้งที่ 75 โดยได้กล่าวถึงหลักการที่ถือประชาชนและชีวิตเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ซึ่งเป็นการอัดฉีดพลังขับเคลื่อนให้กับความร่วมมือระหว่างประเทศในการต่อสู้กับโควิด-19 ได้กล่าวย้ำแนวคิดที่เปิดออกเปิดรับและร่วมมือชนะด้วยกัน ซึ่งเป็นการชี้ทิศทางอันถูกต้องในการพัฒนาเศรษฐกิจโลกแบบเปิดกว้าง และก็ได้กล่าวถึงนานาประเทศเชื่อมโยงกันอย่างเหนียวแน่น ร่วมสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันแห่งมวลมนุษยชาติ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนในการสนับสนุนสหประชาชาติและระบบพหุภาคี
นอกจากนี้ ยังได้ประกาศว่าจีนจะเพิ่มการสนับสนุนอย่างเป็นอิสระ ใช้นโยบายและมาตรการที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อบรรลุการเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี ค.ศ. 2060 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงยังได้ประกาศมาตรการสำคัญหลายประการในการสนับสนุนสหประชาชาติและส่งเสริมสันติภาพและการพัฒนาของโลก โดยย้ำว่าประเทศจีนจะเป็นผู้สร้างสันติภาพของโลก ผู้สนับสนุนการพัฒนาของโลกและผู้พิทักษ์ระเบียบระหว่างประเทศต่อไป ยินดีที่จะร่วมมือกับนานาประเทศในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศรูปแบบใหม่ ก่อตั้งประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันแห่งมวลมนุษยชาติ และสร้างอนาคตที่งดงามยิ่งขึ้นสำหรับทั่วโลก
ประเทศจีนและประเทศไทยเป็นเพื่อนบ้านที่ดี หุ้นส่วนที่ดี เพื่อนสนิทและญาติใกล้ชิด ปีนี้เป็นการครบรอบ 45 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีน-ไทย ตลอดเวลา 45 ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์จีน-ไทยได้ผ่านการทดสอบหลายต่อหลายครั้งและสร้างประวัติศาสตร์อย่างไม่ธรรมดา ความไว้เนื้อเชื่อใจกันทางการเมืองระหว่างสองประเทศได้เพิ่มพูนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าได้ขยายตัว การแลกเปลี่ยนในภาคสังคมและระหว่างประชาชนใกล้ชิดมากขึ้น โดยสรุปได้ว่าความร่วมมืออย่างรอบด้านระหว่างกันได้ประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์
เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดในเชิงลึกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคีและความร่วมมือระหว่างสองประเทศ และก็ได้บรรลุข้อเห็นพ้องกันใหม่ เพิ่มพลังขับเคลื่อนใหม่และชี้ทิศทางใหม่สำหรับการพัฒนาของความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างจีน-ไทยในวันข้างหน้า
ปีนี้ เมื่อทั่วโลกเผชิญกับโควิด-19 ประเทศจีนและประเทศไทย รวมทั้งประชาชนทั้งสองประเทศได้ร่วมทุกข์ร่วมสุข คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ร่วมกันต่อสู้กับโรคระบาด ซึ่งได้แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพอันลึกซึ้งที่กล่าวกันว่า “จีน-ไทยมิใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” และจิตวิญญาณอันยิ่งใหญ่ของความเป็นประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันแห่งมวลมนุษยชาติ ซึ่งก็เป็นการร่วมสร้างคุณูปการอันสำคัญด้านสาธารณสุขให้กับโลกด้วย เรื่องที่น่ายินดีคือ จีนและไทยได้ร่วมกันต่อสู้กับโควิด-19 และร่วมกันพัฒนาประเทศ ผลักดันความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมในทุกๆปริมณฑล
เมื่อเผชิญกับผลกระทบอันร้ายแรงจากโควิด-19 มูลค่าการค้าระหว่างจีน-ไทยในช่วง 8 เดือนแรกกลับเพิ่มขึ้น 6.7% ในช่วงครึ่งแรก จีนได้มาลงทุนในไทยเป็นมูลค่ารวม 17,460 ล้านบาท โครงการรถไฟจีน-ไทยซึ่งเป็นโครงการนำร่องสำหรับความร่วมมือ“สายแถบและเส้นทาง” ระหว่างสองประเทศดำเนินไปอย่างราบรื่น ทั้งสองฝ่ายยังได้เร่งความร่วมมือในนวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น 5G อี-คอมเมิร์ซและการรักษาพยาบาลทางไกลหรือ พูดได้ว่าความสัมพันธ์จีน-ไทยได้เพิ่มความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นหลังผ่านการทดสอบของโควิด-19 และความผันผวนของสถานการณ์โลก
“สายน้ำทอดยาว สายสัมพันธ์จีน-ไทยยั่งยืน” ในโอกาสที่ครบรอบ 71 ปีแห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ครบรอบ 45 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีน-ไทย และจุดเริ่มต้นใหม่สำหรับความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศ ข้าพเจ้าเชื่อว่า ด้วยความพยายามร่วมกันจากทั้งสองฝ่าย
ความสัมพันธ์จีน-ไทยย่อมจะขยายผลประโยชน์ร่วมกันมากยิ่งขึ้น ความเข้าใจและความร่วมมือซึ่งกันและกันก็จะเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราย่อมจะประสบความสำเร็จอันรุ่งโรจน์ และร่วมสร้างอนาคตที่งดงามมากกว่าปัจจุบันอย่างแน่นอน เพื่อนำผลสำเร็จอันเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นสร้างเป็นประโยชน์ให้กับประชาชนทั้งสองประเทศและทั่วโลกอีกด้วย ขอให้ร่วมแรงร่วมใจกัน นำความเชื่อมั่นไปใช้ในการปฏิบัติ ให้การคาดหวังกลายเป็นความจริงขึ้นมา เพื่อร่วมกันต้อนรับอนาคตอันงดงามของสาธารณรัฐประชาชนจีนและความสัมพันธ์จีน-ไทย โดยขออวยพรให้มิตรภาพจีน-ไทยพัฒนาและยั่งยืนตลอดไป ตลอดจนจีนและไทยประสบชัยชนะในการต่อสู้กับโควิด-19 ในเร็ววัน