บอนด์ยีลด์สหรัฐดีดตัวสูงสุด 5 สัปดาห์
บอนด์ยีลด์สหรัฐดีดตัวสูงสุด 5 สัปดาห์ขานรับคืบหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ในวันจันทร์(5ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนเทขายพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ขานรับการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีอาการดีขึ้นหลังเข้ารับการรักษาอาการป่วยจากโควิด-19 และอาจจะออกจากโรงพยาบาลในวันนี้
นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยังได้ปัจจัยบวกจากความหวังต่อความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่
เมื่อเวลา 00.31 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 0.75% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1.552%
ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
นายมาร์ก มีโดวส์ หัวหน้าคณะทำงานประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และคณะแพทย์จะทำการหารือกันในวันนี้ เพื่อพิจารณาว่าปธน.ทรัมป์จะสามารถออกจากโรงพยาบาลในวันนี้ได้หรือไม่ หลังจากเข้ารับการรักษาอาการป่วยจากโควิด-19
“ท่านประธานาธิบดีมีอาการดีขึ้น และเราจะทำการตัดสินใจว่าท่านจะออกจากโรงพยาบาลในวันนี้ได้หรือไม่” นายมีโดวส์กล่าว
อย่างไรก็ดี แม้ว่าปธน.ทรัมป์สามารถออกจากโรงพยาบาลในวันนี้ แต่เขาจะยังคงถูกกักตัวภายในทำเนียบขาวเพื่อเฝ้าดูอาการต่อไป
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์เข้ารับการรักษาตัวที่ศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติวอลเตอร์ รีด ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่มีผลการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นบวก ซึ่งสร้างความวิตกกังวลเป็นวงกว้าง เนื่องจากเหลือเวลาอีกเพียง 1 เดือนก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย.
นอกจากนี้ นายมีโดวส์ยังกล่าวว่า มีแนวโน้มสูงที่ทำเนียบขาวจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับสภาคองเกรสเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ขณะที่ปธน.ทรัมป์มุ่งมั่นที่จะผลักดันให้มีข้อตกลงดังกล่าว
นายมีโดวส์กล่าวว่า ในช่วงที่ปธน.ทรัมป์เข้ารับการรักษาอาการป่วยจากโควิด-19 ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันศุกร์ เขาก็ได้ทำการติดต่ออย่างใกล้ชิดกับนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ และนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำเดือนก.ย.ในวันพุธนี้(ตามเวลาสหรัฐ)