สิงคโปร์ชี้ฉีดวัคซีนแล้วติดโควิด‘ไม่ป่วยหนัก’
รัฐบาลสิงคโปร์เผย การติดเชื้อโควิด-19 ช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา 3 ใน 4 ฉีดวัคซีนแล้ว แต่อาการไม่หนัก
กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์รายงานว่า ในช่วง 28 วันที่ผ่านมาพบการติดเชื้อในชุมชน 1,096 คน ในจำนวนนี้ 484 คน หรือ 44% เป็นคนที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว ขณะที่ 30% ฉีด 1 โดส ที่เหลือ 25% ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน มีผู้ป่วยรุนแรงที่ต้องการออกซิเจนเพียง 7 คน ในจำนวนนี้ 6 คนยังไม่ได้ฉีดวัคซีน 1 คนฉีดวัคซีน 1 โดส
“มีหลักฐานมากขึ้นทุกทีว่า การฉีดวัคซีนช่วยป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงเมื่อติดโควิด-19 คนที่ฉีดวัคซีนครบแล้วทุกรายหากติดเชื้อก็ไม่มีอาการหรืออาการน้อย” แถลงการณ์ระบุ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การที่คนฉีดวัคซีนแล้วติดเชื้อไม่ได้หมายความว่า วัคซีนใช้ไม่ได้ผล
“เมื่อคนสิงคโปร์ฉีดวัคซีนเพิ่มมากขึ้นทุกที เราก็จะเห็นการติดเชื้อในกลุ่มคนที่ฉีดวัคซีนแล้วเพิ่มขึ้น ถ้าจะเปรียบเทียบก็ต้องเทียบสัดส่วนกับคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน สมมุติว่าสิงคโปร์ฉีดวัคซีนให้ประชากรได้ครบ 100% ดังนั้นการติดเชื้อทั้งหมดก็ต้องเกิดจากคนที่ฉีดวัคซีนแล้ว ไม่มีการติดเชื้อจากคนที่ไม่ฉีดวัคซีน” นายเตียว ยิกยิง คณบดีวิทยาลัยสาธารณสุขซอว์สวีฮ็อก จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (เอ็นยูเอส) ให้ความเห็น
ข้อมูลจากกระทรวงบอกด้วยว่า การติดเชื้อในช่วง 14 วันที่ผ่านมาในกลุ่มคนอายุ 61 ปีขึ้นไปที่ฉีดวัคซีนแล้วอยู่ที่ราว 88% สูงกว่ากลุ่มอื่นๆ ที่อายุน้อยกว่า
สิงคโปร์ฉีดวัคซีนไปแล้วเกือบ 75% ของประชากร5.7 ล้านคน มากเป็นอันดับสองของโลกรองจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ส่วนคนที่ฉีดครบแล้วคิดเป็น 50%
ในอิสราเอล ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูงเช่นกัน นับถึงต้นเดือน ก.ค. คนไข้ 46 คนที่เข้าโรงพยาบาลด้วยอาการรุนแรงราวครึ่งหนึ่งฉีดวัคซีนแล้ว และส่วนใหญ่มาจากกลุ่มเสี่ยง ขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าข้อมูลที่ได้หมายถึงวัคซีนป้องกันสายพันธุ์เดลตาได้น้อยลงหรือไม่ ซึ่งสายพันธุ์นี้พบมากที่สุดในสิงคโปร์ช่วงไม่กี่เดือนหลัง โดยโครงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแห่งชาติใช้วัคซีนไฟเซอร์/ไบออนเทคและโมเดอร์นา
วานนี้ (22 ก.ค.) สิงคโปร์พบการติดเชื้อในชุมชน 162 คน เกือบสูงสุดในรอบ 11 เดือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อน ทางการจำต้องควบคุมการพบปะกันของประชาชนให้เข้มงวดยิ่งขึ้น ควบคู่กับเร่งฉีดวัคซีนโดยเฉพาะในหมู่ผู้สูงอายุ