เศรษฐกิจอินโดนีเซียพ้นถดถอยโต 7%
อินโดนีเซียพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ในไตรมาส 2 จีดีพีรายปีโตแกร่งสุดในรอบกว่า 10 ปี แต่นักวิเคราะห์เตือนการติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นมากอาจบดบังเศรษฐกิจฟื้นตัว
สำนักงานสถิติอินโดนีเซียรายงานว่า ระหว่างเดือน เม.ย.-มิ.ย. เศรษฐกิจอินโดนีเซียเติบโต 7.07% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปี 2563 เป็นการขยายตัวครั้งแรกในรอบ 5 ไตรมาส โตสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาส ต.ค.-ธ.ค.2547 ส่วนไตรมาสแรกที่เศรษฐกิจเริ่มหดตัวปรับตัวเลขเป็น 0.71%
นายมาร์โก ยูโวโน ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติอินโดนีเซีย แถลงว่า ภาคส่วนที่เติบโตมากที่สุด ได้แก่ การขนส่ง คลังสินค้า อาหารและเครื่องดื่ม เนื่องจากประชาชนไปไหนมาไหนได้มากขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม อัตราการเติบโตที่สูงส่วนหนึ่งเป็นเพราะฐานต่ำด้วย เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2563 ที่ถูกโควิดเล่นงานหนักหน่วง สังเกตได้จากหลายประเทศ เช่น สิงคโปร์ สหรัฐ ก็รายงานตัวเลขแบบเดียวกัน
หากเทียบเป็นรายไตรมาสยังไม่ปรับปัจจัยตามฤดูกาล เศรษฐกิจไตรมาส 2 ขยายตัว 3.31% เทียบกับไตรมาส 1 ที่ลดลง 0.92% นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขอยู่ที่ 2.94%
ปีก่อนผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) อินโดนีเซียหดตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2541 หดตัว 2.1% เนื่องจากโควิด-19 ระบาด เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ รัฐบาลอินโดนีเซียทุ่มงบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์ ขณะที่ธนาคารกลางใช้มาตรการที่ไม่เคยทำมาก่อน เช่น หั่นอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.25%
อย่างไรก็ตาม นายไฟซาล แรคแมน นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารแมนดิรี กล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่พุ่งขึ้นอีกครั้งในเดือน มิ.ย. เนื่องจากการระบาดของสายพันธุ์เดลตา ประกอบกับทางการออกมาตรการควบคุมรอบใหม่เมื่อต้นเดือน ก.ค. ย่อมส่งผลเสียหายต่อเศรษฐกิจที่กำลังเดินหน้าฟื้่นตัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้