UN ชี้ “เกาหลีเหนือ” เสี่ยงภาวะขาดแคลนอาหารเลวร้ายสุด
กลุ่มเปราะบางที่สุดในเกาหลีเหนือ เสี่ยงภาวะขาดแคลนอาหาร เป็นผลจากเศรษฐกิจถดถอย เพราะต้องปิดประเทศสกัดการระบาดโควิด-19 และผลจากการคว่ำบาตรของสหประชาชาติที่บังคับใช้กรณีโครงการทดสอบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
กลุ่มเปราะบางที่สุดในเกาหลีเหนือ เสี่ยงภาวะขาดแคลนอาหารรุนแรง เป็นผลจากเศรษฐกิจถดถอย เพราะต้องปิดประเทศสกัดการระบาดโควิด-19 และผลจากการคว่ำบาตรของสหประชาชาติที่บังคับใช้กรณีโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
นายโทมัสโอเจีย ควินตานา ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เปิดเผยเมื่อวันพุธ (13 ต.ค.) ว่า เกาหลีเหนือกำลังใช้ชีวิตอย่างดิ้นรน แต่ยังคงศักดิ์ศรีและสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมที่แย่ลงอาจ “กลายเป็นวิกฤติ”
เกาหลีเหนือปิดประเทศอย่างเข้มงวดนับตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว เพื่อปกป้องประเทศตนเองจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจเกาหลีเหนือประสบปัญหา และการค้ากับจีน คู่ค้ารายสำคัญลดน้อยลงถึงขีดต่ำสุด
สถานีโทรทัศน์ KCTV ซึ่งเป็นสื่อทางการเกาหลีเหนือ ยอมรับเมื่อเดือนมิถุนายนว่า เกาหลีเหนือกำลังเผชิญกับ “วิกฤติด้านอาหาร” และในช่วงเดือนเดียวกัน นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ กล่าวว่า สถานการณ์ด้านอาหารกำลังอยู่ในภาวะ “ตึงเครียด”
อ่านข่าว : เกาหลีเหนืออ้างทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยไกลรุ่นใหม่สำเร็จ
"เปียงยาง อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรจากนานาประเทศ กรณีที่เกาหลีเหนือทำการทดลองโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ โดยมาตรการดังกล่าว ควรผ่อนคลายเพื่อปกป้องประเทศที่อ่อนแอที่สุด เมื่อเผชิญปัญหาการขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรง" นายควินตานา ระบุ และกล่าวว่า เด็กและผู้สูงอายุ เป็นกลุ่มเปราะบางที่สุดมีความเสี่ยงจะอดอาหาร
นายควินตานา กล่าวด้วยว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ควรทบทวนบทลงโทษที่กำหนดไว้และผ่อนคลายเมื่อจำเป็น เพื่ออำนวยความสะดวกด้านมนุษยธรรมและการช่วยชีวิตประเทศที่อ่อนแอ
อย่างไรก็ตาม รายงานดังกล่าวมีขึ้นในช่วง 3 เดือน หลังจากองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ ระบุว่า เกาหลีเหนือกำลังเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนอาหารราว 860,000 ตันในปีนี้ และอาจประสบกับความอดอยากขั้นรุนแรง