“กรุงเทพฯ” หลุด“ท็อป 50” เมืองโควิดปลอดภัย

บริษัทวิเคราะห์ “ดีพโนว์เลดจ์อนาลิติกส์” (ดีเคเอ) ซึ่งมีฐานในกรุงลอนดอน จัดอันดับ “เมืองปลอดภัยจากโควิด-19” ประจำไตรมาส 2 ของปีนี้จาก 72 เมือง ผ่าน 114 ตัวชี้วัดใน 5 เกณฑ์ ได้แก่ การรับมือโควิด-19 ความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ ธรรมาภิบาล การดูแลสุขภาพ การกักตัวและฉีดวัคซีน พบว่า กรุงอาบูดาบีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ครองอันดับ 1 ด้วยคะแนนรวม 73.16 มีอัตราการฉีดวัคซีนเป็นอันดับ 1

ที่ 2 ตกเป็นของสิงคโปร์ คะแนนรวม 71.69 เป็นที่หนึ่งในแง่ความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ ตามติดมาด้วยกรุงโซลของเกาหลีใต้อยู่ในอันดับ 3 คะแนนรวม 71.41 เป็นที่ 1 ในด้านการจัดการดูแลสุขภาพ 

เมืองที่เหลือในกลุ่มท็อปเท็น ได้แก่ เทลอาวีฟ-ยาโฟ ประเทศอิสราเอล (67.28), ดูไบ ยูเออี (67.02),  โตรอนโต แคนาดา (65.4), ซิดนีย์ ออสเตรเลีย (65.24) ใกล้เคียงกันมากกับอันดับ 8 เมืองซูริค สวิตเซอร์แลนด์ (65.23), ดับบลิน ไอร์แลนด์ (64.75) อันดับ 10 ได้แก่ ออตตาวา แคนาดา (64.58) เป็นที่ 1 ด้านประสิทธิภาพรัฐบาล 

กรุงโตเกียวของญี่ปุ่นครองอันดับ 14 (63.09) กรุงปักกิ่งของจีน อันดับ 16 (62.81) เป็นที่ 1 ด้านประสิทธิภาพการกักตัว ในภูมิภาคอาเซียนนอกจากสิงคโปร์ครองตำแหน่งสูงสุดแล้ว รองลงไปคืออันดับ 41 กัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย (53.45) ตามด้วยอันดับ 44 ฮานอยของเวียดนาม (51.68) อันดับ 45 มะนิลา ฟิลิปปินส์ (51.61) อันดับ 47 จาการ์ตา อินโดนีเซีย (51.43) อันดับ 50 ตกเป็นของลิสบอน โปรตุเกส (50.37) 

ส่วนกรุงเทพฯ เป็น 1 ใน 72 เมืองที่ถูกสำรวจ แต่ไม่ติดกลุ่มท็อป 50 ดีเคเอระบุว่า กรุงเทพฯ เคยเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในช่วงไม่กี่ปีหลัง แต่เนื่องจากการไม่มีเที่ยวบินและการกักตัว กรุงเทพฯ จึงเผชิญวิกฤติสุดๆ เผยถึงตัวแบบเศรษฐกิจอันเปราะบางของเมือง แม้ไทยจะค่อยๆ เปิดประเทศแล้วแต่คงอีกนานกว่าการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวถึงระดับก่อนโควิด 

เมืองอื่นๆ เช่น อัมสเตอร์ดัม หรือซิดนีย์   เข้าใจดีว่าอีกนานกว่าการท่องเที่ยวจะฟื้นตัว จึงพยายามออกจากตัวแบบเศรษฐกิจพึ่งพาการท่องเที่ยว หันไปปรับปรุงพื้นฐานเศรษฐกิจด้วยวิธีอื่น เช่น ส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ การเคลื่อนไหวของเกษตรกรท้องถิ่นในเมือง พัฒนาซัพพลายเชนอื่นๆ เพื่อส่งเสริมการพึ่งพาตนเอง