"ยุโรป" เร่งสกัดโควิดกลายพันธุ์ “บี.1.1.529”

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ ประเทศในภูมิภาคนี้ประสบปัญหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงและการประท้วงที่รุนแรงเพื่อคัดค้านมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งเป็นมาตรการที่รัฐบาลของแต่ละประเทศต้องการยับยั้งการแพร่ระบาดไวรัส ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเกิน 1.5 ล้านคน และกลายเป็นศูนย์กลางของการระบาดใหญ่ทั่วโลกอีกครั้งอย่างไม่หยุดยั้ง 

ขณะนี้ นักวิทยาศาสตร์กำลังเร่งศึกษาผลกระทบของโควิดกลายพันธุ์ใหม่ เพราะเกรงว่า อาจทำให้มีผู้ติดเชื้อมากกว่าสายพันธุ์เดลต้า ซึ่งทำให้โลกกลับมายอมจำนนอีกครั้ง หลังจากแพร่ระบาดครั้งแรกในภาคกลางของจีนเมื่อเกือบสองปีที่แล้ว

เจนนี่ แฮร์รีส์ หัวหน้าหน่วยงานด้านสุขภาพของสหราชอาณาจักร กล่าวในแถลงการณ์ว่า นี่เป็นตัวแปรสำคัญที่สุดที่เราเคยพบมาจนถึงปัจจุบัน และต้องทำการวิจัยอย่างเร่งด่วน หวังเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการแพร่กระจายที่ความรุนแรง และความไวต่อวัคซีน

ผู้อำนวยการศูนย์ตอบสนองโรคระบาดและนวัตกรรมในแอฟริกาใต้ บอกด้วยว่า ไวรัสสายพันธุ์นี้มีการกลายพันธุ์ที่แตกต่างอย่างมากจากสายพันธุ์อื่นๆที่แพร่ระบาดขณะนี้ และมีการกลายพันธุ์แบบก้าวกระโดดครั้งใหญ่อย่างน่าประหลาดใจ

นอกจากนี้ การกลายพันธุ์ในหลายจุดเกี่ยวข้องกับความสามารถต้านทานแอนติบอดีได้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลง มีการกลายพันธุ์ในจุดที่อาจทำให้แพร่ระบาดได้มากขึ้น รวมทั้งมีการกลายพันธุ์ในบางจุดที่ไม่เคยพบมาก่อน ทำให้ยังไม่ทราบว่ามีผลอย่างไรต่อพฤติกรรมของไวรัส

ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อไวรัส B.1.1.529 จำนวน 77 คนในจังหวัดกัวเต็งของแอฟริดาใต้, 4 คนในบอตสวานา และ 1 คนในฮ่องกง