"ออสเตรเลีย" เปิดพรมแดนรับนักเรียน 15 ธ.ค.นี้

นักเรียน นักศึกษา และแรงงานทักษะต่างชาติจะสามารถเข้าออสเตรเลีย ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2563 ภายใต้ข้อกำหนดกักตัวของรัฐหรือดินแดนที่เดินทางมาถึง ซึ่งช้าจากกำหนดเดิมราวสองสัปดาห์ เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน

นายฮันท์ได้อ้างถึง นายพอล เคลลี หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ รวมถึงข้อมูลบ่งชี้ในต่างประเทศที่ระบุว่า “เชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนแสดงสัญญาณการระบาดที่รุนแรงน้อยกว่าอย่างชัดเจน” พร้อมเสริมว่า “หลักฐานที่ชัดเจนคือวัคซีนทั้งหมดยังคงสามารถป้องกันอาการเจ็บป่วยขั้นรุนแรง อัตราการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และการเสียชีวิตได้”

ขณะเดียวกัน นายฮันท์ยังประกาศว่าบริการสุขภาพทางไกล ซึ่งช่วยให้ชาวออสเตรเลียปรึกษาแพทย์ได้จากทางไกลในช่วงที่โควิด-19 ระบาดนั้น จะให้บริการถาวรหลังมีประชาชนมากกว่า 16 ล้านคน เคยใช้บริการสูงถึง 86 ล้านครั้งในช่วงเวลาดังกล่าว โดยนายฮันท์กล่าวว่า “บริการสุขภาพทางไกลเกิดขึ้นเพราะโรคระบาดใหญ่ และเปลี่ยนวิธีเข้าถึงการดูแลสุขภาพของชาวออสเตรเลีย” 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ออสเตรเลียพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในท้องถิ่นมากกว่า 1,800 ราย และเสียชีวิต 2 ราย ในวันนี้ (13 ธ.ค.) ในช่วงของการระบาดระลอกที่ 3 โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่ 1,290 ราย อยู่ในรัฐวิกตอเรีย ซึ่งมีประชากรมากเป็นอันดับสองและมีเมลเบิร์นเป็นเมืองเอก

ขณะที่รัฐควีนส์แลนด์ ซึ่งมีประชากรมากเป็นอันดับสามของออสเตรเลีย ประกาศเปิดพรมแดนต้อนรับนักเดินทางที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากรัฐนิวเซาท์เวลส์, รัฐวิกตอเรีย และเขตเมืองหลวงออสเตรเลีย (ACT) เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค.

กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า ชาวออสเตรเลียที่อายุ 16 ปีขึ้นไป 93.3% ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสแรกแล้ว และ 89.2% ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว เมื่อนับถึงวันอาทิตย์ (12 ธ.ค.) ที่ผ่านมา