ดาวโจนส์บวก 38 จุดขานรับเงินเฟ้อสอดคล้องคาดการณ์
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันพุธ(12ม.ค.)ปรับตัวขึ้น 38 จุด หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสูงสุดในรอบเกือบ 40 ปี แต่สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของตลาด ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ถูกกดดันให้ต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 38.30 จุด หรือ 0.11% ปิดที่ 36,290.32 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 13.28 จุด หรือ 0.28% ปิดที่ 4,726.35 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 34.94 จุด หรือ 0.23% ปิดที่ 15,188.39 จุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 7.0% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2525 แต่สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทยังได้ปัจจัยบวกจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีร่วงหลุดระดับ 1.72% หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อดังกล่าว
ทั้งนี้ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีถือเป็นพันธบัตรที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้น จะทำให้บริษัทต่าง ๆ เผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
ขณะเดียวกัน ตลาดจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ โดยธนาคารขนาดใหญ่ เช่น เจพีมอร์แกน เชส, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โกจะเปิดเผยผลประกอบการในวันศุกร์