อังกฤษผ่อนมาตรการคุมโควิด 'ไม่สวมหน้ากากไม่ผิดกฎหมาย'
อังกฤษยกเลิกแผนสอง (แพลนบี) ที่ใช้คุมโควิดสายพันธุ์โอมิครอนตั้งแต่คริสต์มาส กฎหมายไม่บังคับการสวมหน้ากากอีกต่อไป
เวบไซต์สกายนิวส์ของอังกฤษ รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.65 เป็นต้นไป การจัดงานและสถานที่ต่างๆ ในอังกฤษไม่จำเป็นต้องแสดงใบรับรองปลอดโควิดของเอ็นเอชเอส หากจะใช้ก็แล้วแต่สมัครใจ กฎหมายไม่บังคับการสวมหน้ากากในทุกที่ ยกเว้นการโดยสารรถสาธารณะในกรุงลอนดอนที่ยังคงบังคับ
ขณะที่คู่มือสาธารณสุขยังคงแนะนำให้ปิดใบหน้าในสถานที่ปิด และที่มีผู้คนแออัด กระทรวงศึกษาธิการไม่แนะนำให้สวมหน้ากากในที่ชุมชนอีกแล้ว แต่ผู้อำนวยการสาธารณสุขในท้องที่อาจออกมาตรการเพิ่มเติมใหม่ได้ โดยจะทบทวนเรื่องนี้อย่างสม่ำเสมอ และยกเลิกโดยเร็วที่สุด
ชาติอื่นๆ ในสหราชอาณาจักรก็กำลังผ่อนคลายข้อบังคับแต่ไม่เปิดกว้างถึงระดับอังกฤษ ที่ยกเลิกคำแนะนำนักเรียน และเจ้าหน้าที่สวมหน้ากากในห้องเรียนไปตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.65 ยกเลิกแนะนำให้ทำงานจากบ้านตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค.65
นายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุ “ความพยายามไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของระบบบริการสาธารณสุขแห่งชาติ (เอ็นเอชเอส)เจ้าหน้าที่ รวมถึงกองทัพอาสาสมัคร และการตอบสนองความต้องการของสาธารณชนอังกฤษทำให้ประชาชนกว่า 37 ล้านคนได้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ผมขอขอบคุณทุกคนที่ออกมาฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นตอนนี้” พร้อมเสริมว่า อังกฤษมีมาตรการแข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป เปิดให้ค่อยๆ ออกจากแผนสองกลับไปสู่แผนหนึ่ง (แพลนเอ) ทำให้ประเทศอังกฤษมีเสรีภาพได้มากขึ้น
“เมื่อเราเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับโควิด เราจำเป็นต้องเข้าใจว่า ไวรัสนี้ไม่ไปไหน เพราะฉะนั้นถ้าคุณยังไม่ฉีดวัคซีนก็ขอให้ออกมาฉีดเข็ม 1, เข็ม 2 หรือเข็มกระตุ้น”
อย่างไรก็ตาม บริษัทและบริการบางอย่างอาจขอให้ประชาชนสวมหน้ากากต่อไป เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ตแซสเบอร์รีและเวทคโรส ขอให้ประชาชนสวมหน้ากากเมื่ออยู่ในร้าน
ขั้นต่อไป ข้อกำหนดให้ประชาชนที่ตรวจเจอโควิดต้องกักตัวเองจะยกเลิกในวันที่ 24 มี.ค.65 โดยนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ชี้ว่าเขาไม่คาดว่าจะกลับมาบังคับใช้อีก
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์