“ไทยเจ้าภาพเอเปค” จัดประชุม Som1 ออนไลน์เริ่ม 14 - 25 ก.พ.นี้
"โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ" เผย ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปค ระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสอย่างเป็นทางการ ครั้งที่ 1 ดันแนวคิดเศรษฐกิจ BCG เชื่อมโยงความร่วมมือดิจิทัล การค้า และการลงทุน รวมทั้งขยายศักยภาพและโอกาส MSMEs ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ไทยในฐานะเจ้าภาพเอเปค 2565 ไทยกำลังจะจัดการประชุมครั้งแรกของปี เพื่อปูทางประเด็นหารือที่ไทยจะผลักดันตลอดทั้งปี โดยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค (SOM) ครั้งที่ 1 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 14 - 25 กุมภาพันธ์ 2565 ในรูปแบบออนไลน์ ประกอบด้วยการประชุมคณะทำงานและการสัมมนาต่างๆ กว่า 30 การประชุม ครอบคลุมประเด็นการค้าการลงทุน ความเชื่อมโยงความร่วมมือด้านดิจิทัล ไปจนถึงความมั่นคงทางอาหาร สุขภาพ สิ่งแวดล้อม และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งผลการประชุมทั้งหมดจะนำไปรายงานต่อที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสในวันที่ 14-25 กุมภาพันธ์ นี้
การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค นับเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนการทำงานของเอเปค จะจัดขึ้นทั้งหมด 4 ครั้ง ตลอดปี เพื่อนำผลการหารือไปจัดทำเป็นผลลัพธ์การประชุมระดับรัฐมนตรีและระดับผู้นำต่อไป ในการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค ครั้งที่ 1 นี้ จะมีการประชุมระดับคณะทำงาน จำนวน 19 กลุ่ม ที่ครอบคลุม ทุกคณะกรรมการหลักของเอเปค รวมทั้งการประชุมเชิงอภิปรายที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นเป็นการเฉพาะเพื่อขับเคลื่อนประเด็นสำคัญของวาระการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทยโดยจะมีการนำความเห็นของภาคเอกชนจากสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจของเอเปคมาพิจารณาในการประชุมต่างๆ ด้วย เพื่อให้กลไกการทำงานของเอเปคตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจมากที่สุด
ไทยมุ่งเน้นที่จะผลักดันผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมในการเป็นเจ้าภาพเอเปค ตามหัวข้อหลักเปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล หรือ Open. Connect. Balance. โดยเปิดประเด็นการหารือต่อไปนี้
1. Open คือ การขับเคลื่อนการหารือเรื่องเขตการค้าเสรีในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Free Trade Area of the Asia-Pacific: FTAAP) ในยุคหลังโควิด-19 เพื่อประสานมุมมองเกี่ยวกับความตกลงทางการค้าที่มีมิติครอบคลุมการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืน ความมั่นคงด้านสุขภาพ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลฯลฯ เพื่อจะช่วยอำนวยความสะดวกด้านการค้าการลงทุนที่สามารถตอบสนองความท้าทายใหม่ๆ ของโลกปัจจุบัน
2. Connect คือ การส่งเสริมความเชื่อมโยงในเอเปค โดยเฉพาะการส่งเสริมการอำนวยความสะดวกการเดินทางข้ามแดน อาทิ การเชื่อมโยงฐานข้อมูลระบบเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานกุญแจสาธารณะ (Public Key Infrastructure: PKI) การสร้างฐานข้อมูลเพื่ออำนวยความสะดวกนักเดินทางและการขยายขอบข่ายของบัตรเดินทางนักธุรกิจเอเปคที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่ออำนวยความสะดวกและรื้อฟื้นการเดินทางข้ามพรมแดนในภูมิภาคอย่างปลอดภัยและไร้รอยต่อ ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งเป็นคณะทำงานที่ตั้งขึ้นโดยเฉพาะภายใต้การเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทย
3. Balance การนำโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจ สีเขียว (BCG) มาเป็นแนวทางขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในเอเปค โดยไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการหารือเชิงนโยบายเพื่อส่งเสริมโมเดลเศรษฐกิจ BCG ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์การดำเนินการเรื่อง BCG ร่วมกับเขตเศรษฐกิจสมาชิกเอเปคโดยเน้น 3 สาขา คือ 1.การเกษตรและระบบอาหาร 2. พลังงาน และ 3.การบริหารจัดการทรัพยากร
ในภาพรวม การขับเคลื่อนความร่วมมือต่างๆ เหล่านี้ จะส่งผลให้ประชาชนและภาคธุรกิจของไทยได้ประโยชน์ อาทิ จากการเดินทางข้ามพรมแดนที่สะดวกยิ่งขึ้น การเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจได้อย่างเท่าเทียมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รวมถึงการเข้าถึงแหล่งเงินทุน นวัตกรรมทางดิจิทัล (digital innovation) การพัฒนาศักยภาพและขยายโอกาสของ MSMEs และการสร้างเสริมการพัฒนาพลังงานทดแทน ซึ่งการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค ครั้งที่ 1 นี้ จะเป็นบันไดนำไปสู่ผลลัพธ์ต่างๆ ซึ่งไทยจะดำเนินการผลักดันร่วมกับเขตเศรษฐกิจสมาชิกเอเปคตลอดทั้งปีต่อไป
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์