ราคาน้ำมันพุ่งสูงในรอบ 7 ปีหวั่นวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวพุ่งสูงขึ้นในรอบ 7 ปี หลังจากสถานการณ์ขัดแย้งรัสเซียกับยูเครนตึงเครียดยิ่งขึ้น ทำให้วิตกว่าจะกระทบต่อปริมาณน้ำมันในตลาดโลก
ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ของอังกฤษพุ่งสูงขึ้นแตะระดับ 97.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันนี้ หลังรัสเซียรับรองสถานะของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์และสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์ในภาคตะวันออกของยูเครน ที่ประกาศแยกตัวเป็นเอกราชเมื่อ 8 ปีที่แล้วและส่งทหารเข้าไปในภูมิภาคดังกล่าวเมื่อวันจันทร์ และอังกฤษและชาติตะวันตกบางรายขู่จะดำเนินมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย ที่เป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก และผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติอันดับต้น ๆ ของโลก
นักวิเคราะห์ มองว่า มาตรการคว่ำบาตรอาจทำให้รัสเซียส่งออกน้ำมันดิบหรือก๊าซธรรมชาติได้น้อยลง และจะกระทบต่อเศรษฐกิจโลก โดยอาจทำให้ราคาน้ำมันพุ่งเกิน 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยมีปัจจัยทั้งจากวิกฤตยูเครน ฤดูหนาวในสหรัฐฯ และการขาดการลงทุนด้านการผลิตน้ำมันและก๊าซทั่วโลก
นอกจากนี้ หากรัสเซียระดับการส่งออกน้ำมันให้ยุโรป ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่วันละ 3 ล้านบาร์เรล อาจทำให้ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นอีก 10-15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และจะทำให้น้ำมันดิบเบรนต์แตะระดับ 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลได้
ขณะนี้นักลงทุนกำลังจับตาว่าสถานการณ์จะลุกลามกลายเป็นสงครามหรือไม่ และวิตกว่า ต้นทุนการขนส่งสินค้าที่สูงอยู่แล้ว จะพุ่งทะยานยิ่งขึ้นอีกเพราะการหยุดชะงักของอุปสงค์และอุปทาน
ราคาน้ำมันดิบเกินกว่า 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในขณะนี้ ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 20% จากระดับกว่า 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลช่วงปีใหม่ 2564