'Benz' เล็งใช้แบตฯสุดล้ำจาก 'BYD' ในรถ EV รุ่นใหม่ ภายในปี 68
โลกตะวันตกหันมาใช้นวัตกรรมเอเชียมากขึ้น เมื่อ “Benz” ค่ายรถหรูแห่งเยอรมนี เตรียมใช้แบตเตอรี่รถ EV สุดล้ำจากค่ายรถจีน BYD ที่ชื่อว่า “Blade Battery” ภายในปี 68 ความพิเศษของแบตฯนี้คืออะไร ถึงทำให้ Benz หันมาใช้ตาม
Key Points
- Mercedes-Benz เตรียมหันมาใช้แบตเตอรี่จากค่ายรถจีน BYD ที่ชื่อว่า “Blade Battery” กับรถ EV รุ่นใหม่ภายในปี 2568
- Blade Battery ถูกออกแบบให้มีแผ่นบางคล้ายใบมีด ทำให้มีรูปทรงบางและยาวกว่าแบตเตอรี่ทั่วไป ช่วยให้พื้นผิวระบายความร้อนเร็วกว่าเซลล์แบตเตอรี่แบบเดิมที่เป็นก้อนสี่เหลี่ยม
- Tesla ได้พบว่า Blade Battery ที่ใส่เข้าไป ทำให้รถนั้น "ชาร์จได้เร็วขึ้น แถมประสิทธิภาพดีกว่าเดิม"
ท่ามกลางการแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดในปัจจุบัน หลายบริษัทพยายามงัดหลายกลยุทธ์ออกมา ไม่ว่าจะเป็นการลดราคาขายให้ต่ำกว่า หรือการพัฒนาแบตเตอรี่ให้เหนือกว่า อึดกว่า และวิ่งได้ไกลกว่า
ล่าสุด มีข่าวใหญ่จากเว็บไซต์ Electrek ด้านรถ EV ที่รายงานว่า Mercedes-Benz ค่ายรถหรูรายใหญ่ของเยอรมนี เตรียมหันมาใช้แบตเตอรี่จาก BYD ค่ายรถชื่อดังของจีน ที่ชื่อว่า “Blade Battery” ภายในปี 2568 โดยเริ่มจากรถ EV ที่จะเปิดตัว คือ “Mercedes-Benz CLA”
- Blade Battery ของรถ BYD (เครดิต: BYD Europe) -
ก่อนหน้านั้น มีบริษัทค่ายรถตะวันตกที่นำแบตเตอรี่จาก BYD มาใช้แล้ว คือ บริษัท Tesla ของ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ซึ่งเป็นทั้งผู้ก่อต้ังและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) โดยใช้สำหรับรถ Tesla Model Y ที่โรงงาน Gigafactory สาขากรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
Blade Battery มีความเหนือกว่าอย่างไร ถึงสามารถดึงดูดบริษัท Benz และบริษัท Tesla ให้สนใจใช้แทนแบตเตอรี่แบบเดิม
- รถรุ่นต้นแบบ Mercedes-Benz CLA-Class (เครดิต: Mercedes-Benz Group) -
- ความพิเศษของ Blade Battery
ในปัจจุบัน แบตเตอรี่ที่เหล่ารถ EV ใช้เป็นแบบลิเทียมทั่วไป ซึ่งมีหลายฝ่ายกังวลว่า หากตัวแบตฯรถ EV ได้รับแรงกระแทก จะเกิดอันตรายขึ้นหรือไม่ จึงเกิดการพัฒนาเป็นนวัตกรรมใหม่ขึ้นจากค่ายรถ BYD คือ แบตเตอรี่แบบ Blade Battery
แบตเตอรี่ประเภทนี้ ยังคงเป็น Lithium Iron-Phosphate (LFP) แต่ออกแบบให้มีแผ่นบางคล้ายใบมีด ทำให้มีรูปทรงบางและยาวกว่าแบตเตอรี่ทั่วไป ช่วยให้พื้นผิวระบายความร้อนเร็วกว่าเซลล์แบตเตอรี่แบบเดิมที่เป็นก้อนสี่เหลี่ยม ใช้พื้นที่น้อยลงถึง 50% พร้อมค่าความหนาแน่นของพลังงานไม่ลดลง
อีกทั้งหากเกิดการลัดวงจรภายในเซลล์แบตฯ ก็ไม่กระทบต่อเซลล์อื่น ๆ จึงทำให้ Blade Battery มีความปลอดภัยกว่าแบตฯแบบก่อน
ยิ่งไปกว่านั้น Tesla ได้พบว่า แบตเตอรี่แบบใหม่นี้ ทำให้รถนั้น "ชาร์จได้เร็วขึ้น แถมประสิทธิภาพดีกว่าเดิม"
- ความร่วมมือระหว่าง Benz กับ BYD
Benz กับ BYD ร่วมมือด้านรถยนต์มายาวนานแล้ว โดยในปี 2553 ทั้งสองบริษัทก่อตั้งกิจการร่วมค้า (JV) เพื่อวิจัยและพัฒนารถยนต์ EV แบบใหม่ภายใต้บริษัทใหม่ที่ชื่อว่า “Denza”
สำหรับปัจจุบัน บริษัท Benz ใช้แบตเตอรี่แบบ Nickle Manganese Cobalt (NMC) ที่ให้พลังงานสูงกว่าแบตเตอรี่แบบ Lithium Iron Phosphate (LFP) ในการผลิตรถ EV
- รถรุ่นต้นแบบ Mercedes-Benz CLA-Class (เครดิต: Mercedes-Benz Group) -
อย่างไรก็ตาม แบตเตอรี่แบบ LFP กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น เพราะใช้ปริมาณแร่โคบอลต์ (Cobalt) น้อยลง จึงทำให้มีต้นทุนแบตฯถูกลง โดย Tesla ยืนยันว่า เกือบครึ่งหนึ่งของรถที่ถูกผลิตในช่วงไตรมาสแรกของปีจะเป็นแบตฯแบบ LFP มากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทผลิตรถค่ายอื่นอย่าง Ford, Toyota และ Hyundai ก็มีผลิตรถ EV ที่ใช้ Blade Battery จากบริษัท BYD
บริษัทรถ Kia เพิ่งเปิดตัวรถ Kia EV5 แบบอเนกประสงค์ ซึ่งคาดว่ามีราคา 22,000 ดอลลาร์หรือราว 780,000 บาทในจีน ซึ่งใช้แบตฯ แบบ Blade Battery จาก BYD ด้วย
อ้างอิง: electrek, electrek(2), byd