BMW ลุย EV เปิดตัว iX เดือน พ.ย.
เดือนพฤศจิกายน ปีนี้ บีเอ็มดับเบิลยู จะเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในตลาดโลก ที่คาดหวังให้เป็นเรือธงตัวใหม่ นั่นก็คือ “iX” ที่จะมาพร้อมกับการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% หรือ อีวี (EV)
บีเอ็มดับเบิลยู ยืนยันว่า ยืนยันว่า นอกจากเรื่องของความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สิ่งที่จะได้จาก iX ก็คือ อารมณ์สปอร์ต ความปราดเปรียวในการขับขี่ และที่สำคัญของคำถามที่มีต่ออีวี ก็คือ ความสามารถในการใช้งานแต่ละครั้ง ซึ่งผู้ผลิตจากมิวนิค ยืนยันว่าระยะการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าที่ยาวไกลยิ่งขึ้น
iX เป็นรถเอนกประสงค์ หรือ SAV (Sports Activity Vehicle) ในนิยามของบีเอ็มดับเบิลยู แต่หลายคนอาจจะเรียกว่าเป็น เอสยูวี ตามความคุ้นเคย ก็คงไม่ผิด
บีเอ็มดับเบิลยู ระบุด้วยว่า นอกจากนี้ iX เป็นการปูรากฐานสู่นวัตกรรมแห่งอนาคต เตรียมพร้อมสำหรับเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ รวมถึงการทำงาน การเชื่อมต่อ และบริการด้านดิจิทัลต่าง ๆ
ส่วนรายละเอียดแผนการเปิดตัว จะเริ่มต้นด้วย 2 รุ่นย่อย ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อทั้งคู่
บีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive50
- ให้กำลังสูงสุด 523 แรงม้า
- อัตราการใช้ไฟฟ้าตามมาตรฐาน WLTP 0 – 19.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กิโลเมตร
- ระยะทางการใช้งานสูงสุด 630 กิโลเมตร
บีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive40
- ให้กำลังสูงสุด 326 แรงม้า
- อัตราการใช้ไฟฟ้าตามมาตรฐาน WLTP 5 – 19.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กิโลเมตร
- ระยะทางการใช้งานสูงสุด 425 กิโลเมตร
ส่วนแผนการในอนาคต บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เตรียมเปิดตัวตัวโหด ตามมาก็คือ iX M60
- ให้กำลังสูงสุด 600 แรงม้า
- อัตราการใช้ไฟฟ้าตามมาตรฐาน WLTP 6 กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กิโลเมตร
อย่างไรก็ตาม iX M60 เป็นรถที่ยังอยู่ในการพัฒนา ดังนั้นตัวเลขทางเทคนิคต่างๆ เหล่านี้ เป็นการคาดการณ์
สำหรับโครงสร้างของบีเอ็มดับเบิลยู iX ใช้อลูมิเนียมแบบ spaceframe ส่วนหลังคามาในโครงสร้าง Carbon Cage ซึ่งประกอบด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์บริเวณด้านข้างและด้านหลัง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและลดน้ำหนัก
รูปทรงของรถ แม้จะเป็น เอสเอวี แต่ก็ทำค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานได้ดีทีเดียว คือ 0.25 ซึ่งแน่นอนมีผลต่อประสิทธิภาพการขับขี่ อัตราสิ้นเปลือง และระยะทางการใช้งาน
ขณะที่แบตเตอรี่แรงดันสูงติดตั้งอยู่ใต้ท้องรถ ลดการรบกวนพื้นที่ในห้องโดยสาร และยังช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงให้ต่ำลง ทำให้การควบคุมรถทำได้ดีขึ้น
ส่วนรายละเอียดทางเทคนิคที่สำคัญเช่น
- ช่วงล่างแบบถุงลมควบคุมด้วยไฟฟ้า ด้านหน้าแบบปีกนกคู่ หลัง five-link
- ช่วงล่างสามารถปรับระดับได้
- พวงมาลัยไฟฟ้าปรับน้ำหนักตามความเร็วรถขณะขับขี่ และการหมุน
- ระบบล้อหลังช่วยเลี้ยว
- เบรกแบบสปอร์ต
- ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 20 นิ้วเป็นมาตรฐาน แต่มีออปชั่นให้เลือกเป็นขนาด 21 และ 22 นิ้ว
- ยางลดเสียงรบกวน ด้วยชั้นโฟมบริเวณพื้นผิวด้านใน
- ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบไฟฟ้า
- ระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อ (Near-actuator wheel slip limitation) ถูกนำมาใช้คู่กับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นครั้งแรก เพื่อป้องกันการลื่นไถลของล้อและเพิ่มความเสถียรภาพในการควบคุมรถ เป็นส่วนหนึ่งของระบบการจัดการมอเตอร์ ซึ่งป้อนข้อมูลที่แม่นยำและฉับไวเพื่อขับเคลื่อนรถยนต์อยู่ตลอดเวลา แม้ขณะขับขี่ในสภาพอากาศหรือสภาวะถนนที่ท้าทาย
ระบบนี้ยังช่วยให้ การออกตัวของรถทำได้ดียิ่งขึ้น จากการจัดการส่งแรงบิดที่เหมาะสมไปยังล้อทั้ง 4 โดยส่งผลให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- iX xDrive50 ภายใน 4.6 วินาที
- iX xDrive40 6.1 วินาที
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ใช้มอเตอร์ 2 ตัว ทำงานด้วยหลักการของมอเตอร์ซิงโครนัสที่กระตุ้นด้วยไฟฟ้าแทนที่จะเป็นแม่เหล็กแบบในมอเตอร์ทั่วไป จึงสร้างแรงบิดรวมได้มาก
- 630 นิวตันเมตรสำห รับ iX xDrive40
- 765 นิวตันเมตรในบีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive50
บีเอ็มดับเบิลยู ระบุอีกว่า iX ยังมีความโดดเด่น คือ การนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่แบบแปรผัน ตั้งค่าได้ตามความต้องการเฉพาะบุคคล หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือ เลือกระดับการชาร์จกลับพลังงานไฟฟ้านั่นเอง โดยเลือกได้ 3 ระดับ คือ ระดับสูง ปานกลาง และต่ำ
มาดูด้านแบตเตอรี ใช้เทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่ใหม่ล่าสุด ความสามารถในการกักเก็บพลังงานในระดับเซลล์เพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่แรงดันสูงที่ใช้ในบีเอ็มดับเบิลยู i3 รุ่นปี 2020
- iX xDrive50 ติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดความจุ 105.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง
- iX xDrive40 มีความจุพลังงานสุทธิ 71 กิโลวัตต์ชั่วโมง
ขณะที่การชาร์จไฟฟ้า หัวชาร์จแบบ Combined Charging Unit (CCU) รองรับการชาร์จแบบ DC ได้สูงสุด 200 กิโลวัตต์ สำหรับ iX xDrive50) และ 150 กิโลวัตต์ ใน iX xDrive40 โดยการชาร์จแบตเตอรีจาก 10-80% แบบ DC
- ใช้เวลา 35 นาที สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive50
- 31 นาที สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive40
และหากรีบ โดยที่แบตเตอรีเหลือ 10% การใช้เวลาชาร์จ 10 นาที แบบ DC จะทำให้สามารถเดินทางต่อได้อีกระยะหนึ่ง คือ
- 150 กิโลเมตร สำหรับ iX xDrive50
- 95 กิโลเมตรสำหรับ บีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive40
iX จะมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลและระบบทำงาน iDrive เจเนอเรชั่นใหม่ ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกใน iX ต่อยอดการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ให้เป็นธรรมชาติมากขึ้น ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8 ที่ออกแบบสำหรับทำงานร่วมกับจอระบบสัมผัสแบบโค้ง BMW Curved Display
รองรับการโต้ตอบด้วยเสียงกับ BMW Intelligent Personal Assistant ซึ่งได้รับการอัปเกรดจากรุ่นก่อนหน้า
ระบบ My Modes ใหม่ ขยายการตั้งค่าต่าง ๆ ของรถยนต์ให้ครอบคลุมประสบการณ์ขับขี่ทุกรูปแบบ โดยสามารถอัพเกรดระบบหรือซื้อบริการเพิ่มเติมจาก BMW ConnectedDrive Store ได้ด้วยตนเองผ่านคุณสมบัติ Functions onDemand ซึ่งติดตั้งโปรแกรมต่าง ๆ ได้แบบไร้สาย และอัพเดตซอฟต์แวร์ล่าสุดได้ตลอดเวลา
ระบบนำทางซึ่งประกอบด้วย BMW My Maps และ Augmented Reality Video แสดงผลทางจอ Control Display และทำงานบนระบบคลาวด์ จึงวางแผนเส้นทางได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ให้ผู้ขับขี่ค้นหาเส้นทางได้อย่างง่ายดาย ทั้งนี้ ตัวรถใช้เทคโนโลยี 5G ในการรับส่งข้อมูล อีกทั้งยังสามารถส่งข้อมูลจากมือถือไปยังรถยนต์โดยใช้ eSIM ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีใหม่ที่บุกเบิกมาพร้อมกับบีเอ็มดับเบิลยู iX
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ มาพร้อมเซนเซอร์เจเนอเรชั่นใหม่ ซอฟต์แวร์ใหม่ และแพลตฟอร์มในการประมวลผลที่รวดเร็วแม่นยำ ทำงานร่วมกับอุปกรณ์ตรวจจับสภาพแวดล้อมรอบคัน
- กล้อง 5 ตัว
- เรดาร์เซนเซอร์ 5 ตัว
- อัลตร้าโซนิกเซนเซอร์ 12 ตัว
บีเอ็มดับเบิลยูระบุว่า ระบบช่วยเหลือหลายๆ อย่างพัฒนาขึ้น เช่น
ระบบเตือนการชนด้านหน้าสามารถตรวจจับการจราจรหน้ารถได้ขณะเลี้ยวซ้าย (สำหรับประเทศที่รถยนต์ขับด้านขวา) ตรวจจับจักรยานและคนเดินเท้าได้ขณะเลี้ยวขวา
ลูกค้ายังสามารถเลือกติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม เช่น ระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน Steering and Lane Control Assistant ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go รวมถึงอีกสองระบบใหม่ล่าสุดอย่าง ระบบเตือนขณะเปิดประตูรถ ในกรณีที่มีจักรยานหรือคนเดินเท้าอยู่ใกล้ประตูรถ (Exit warning function) และระบบ Remote Theft Recorder ซึ่งมาเสริมการทำงานของระบบที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐานอย่างระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ (Parking Assistant) ซึ่งประกอบด้วยกล้องมองหลัง (Reversing Assist Camera) และระบบช่วยถอยหลัง (Reversing Assistant)
ด้านการออกแบบ iX มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทีเดียว ภายนอกที่มีเส้นสายแบบชัดเจนทรงพลัง กระจังหน้าทรงไตคู่ที่เกือบปิดทึบ โดยกล้องและเรดาร์เซนเซอร์ฝังอยู่ภายใต้พื้นผิวของกระจังหน้า
การออกแบบภายในห้องโดยสาร คอนโซลกลาง ปุ่มควบคุมระบบสัมผัสและระบบเปลี่ยนเกียร์แบบ rocker switch พวงมาลัยทรงหกเหลี่ยมและจอ Head-Up Display
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติมาพร้อมฟิลเตอร์นาโนไฟเบอร์ จอระบบสัมผัสแบบใหม่ ระบบเสียง Bowers & Wilkins Diamond Surround Sound System ที่ฝังอยู่ในพนักพิงศีรษะ และระบบเสียงแบบ 4D ที่มีฟังก์ชั่นสั่นตามเสียงเบสในเบาะหน้า
และเพื่อความปลอดภัย iX3 มีระบบเสียงสังเคราะห์ เพื่อเตือนคนเดินถนน และเสียงประกอบการขับขี่ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เติมเต็มความเร้าใจให้กับผู้ขับขี่อีก
ซึ่ง BMW IconicSounds Electric ที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน ยังมาพร้อมตัวเลือกเสียงใหม่ล่าสุดจากนักแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ชื่อดังระดับโลกอย่าง Hans Zimmer อีกด้วย