มาแล้ว! โตโยต้า 'อีวี' ส่ง 'bZ4x' ลุยตลาดไทยปีนี้
โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ยืนยันพร้อมทำตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี (EV) โดยเตรียมเปิดตัว bZ4X อีวี รุ่นแรกในตระกูล bZ ปีนี้
โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทแม่ประกาศแนวทางการดำเนินธุรกิจในอนาคต รวมถึงกลยุทธ์ในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน
โดยตั้งเป้าหมายว่าจะต้องสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนให้สำเร็จภายในปี 2593 ด้วยกลยุทธ์ที่หลากหลาย โดยเฉพาะกลยุทธ์ด้านยานยนต์ไฟฟ้า หรือ อีวี
โดยโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประกาศว่าจะผลิต อีวี ครบ 30 รุ่น ภายในปี 2573 รวมไปถึงรถซีรีส์ bZ จำนวน 5 โมเดล ซึ่งมาพร้อมกับแพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับ อีวี โดยเฉพาะ
ด้านการตลาดโตโยต้าตั้งเป้าขายรถยนต์อีวีให้ได้ 3.5 ล้านคัน ภายในปี 2573 โดยบริษัททุ่มเงินลงทุน 1.2 ล้านล้านบาท เพื่อพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่
โดยในจำนวนนี้ เงินจำนวน 6 แสนล้านบาท จะนำไปใช้กับการลงทุนด้านแบตเตอรี่ และยังลงทุนอีก 1.2 ล้านล้านบาท สำหรับรถยนต์ไฮบริด ปลั๊ก-อิน ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้าแบบเซลล์เชื้อเพลิง หรือ fuelcell ภายในปี 2573
ในส่วนของประเทศไทย ก็จะเดินตามนโยบายของบริษัทแม่ หลังจากก่อนหน้านี้ โตโยต้าเริ่มต้นนำเทคโนโลยีไฟฟ้าเข้ามาทำตลาดตั้งแต่ปี 2552 ในรูปแบบรถไฮบริด และมีการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าของโตโยต้ามากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ทำให้สามารถลดคาร์บอนไดออกไซด์ 148,000 ตัน ซึ่งเท่ากับการปลูกต้นไม้ 2 ล้านต้น
และปี 2564 ที่ผ่านมา โตโยต้า ประเทศไทย เปิดตัว เลกซัส UX300e ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ 100% และ เลกซัส NX450h+ รถปลั๊ก-อิน ไฮบริด
และปี 2565 นี้บริษัทมีแผนทำตลาด โตโยต้า bZ4X ซึ่งเป็น อีวี รุ่นแรกของซีรีส์ bZ
ทั้งนี้ bZ4x มีขนาดตัวถังยาว 4,690 มม. กว้าง 1,860 มม. สูง 1,650 มม. ฐานล้อยาว 2,850 มม.
มี 2 รุ่นย่อยคือ มอเตอร์ตัวเดียว ขับเคลื่อนล้อหน้า ให้กำลังสูงสุด 201 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 256 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 8.4 วินาที ระยะทางใช้งานสูงสุดต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง 500 กม.
ส่วนรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ติดตั้งมอเตอร์ 2 ตัว ให้กำลังสูงสุด 215 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 256 นิวตันเมตร 0-100 กม./ชม. 7.7 วินาที ระยะทางใช้งานสูงสุดต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง 460 กม.
นอกจากนี้โตโยต้ายังมีแผนส่งเสริมให้มีการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศให้มากยิ่งขึ้น เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตหลักสำหรับการประกอบ อีวี อีกหลากหลายรุ่นในอนาคต