จับตา 'เพื่อไทย' เปลี่ยนหัวเรือคนใหม่

ที่สามารถเพิ่มจำนวนเสียงในสภาให้มาอยู่ที่ 255

รอลุ้นสถานะของ “กรุงศรีวิไล สุทินเผือก” ส.ส.สมุทรปราการ ที่อยู่ระหว่างการวินิจฉัยของศาลว่าจะหลุดเก้าอี้หรือไม่ รวมถึงการเลือกตั้งซ่อม เขต 2 จ.เพชรบูรณ์ แทน พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ที่โดนตัดสินจำคุกคดีชุมนุมล้มการประชุมอาเซียนซัมมิท

ซึ่งหาก พรรคพปชร. สามารถทวงคืนเก้าอี้ได้ทั้ง 2 เขต จะเพิ่มจำนวนเสียงในสภาเป็น 257 เสียง ทิ้งห่าง “ขั้วฝ่ายค้าน” ได้พอสมควร โอกาสที่จะพลิกเกมโหวตยากไปอีกขั้น

คนที่ตกเป็นที่นั่งลำบากหนีไม่พ้น “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) ที่ถูกเป็นเป้าโจมตีข้อหานำทัพ “พ่ายศึกเลือกตั้งซ่อม” แถมสถานการณ์ในพรรคพท. สุดารัตน์ ไม่ได้กุมอำนาจเบ็ดเสร็จเหมือนเดิม

การเข้ามาเท๊คแอ๊คชั่นของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคพท. ในฐานะหัวหอกคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคพท. ทำให้สถานะของ สุดารัตน์ ไม่มั่นคง

ว่ากันว่า สุดารัตน์ จะมีโอกาสพิสูจน์ตัวเองในสนามเลือกตั้งซ่อม เขต 2 จ.เพชรบูรณ์ ที่จะมีขึ้นในช่วงต้นปี 2563 หาก สุดารัตน์ นำทัพพรรคพท.แพ้อีกคำรบ มีโอกาสสูงที่จะกระเด็นหลุดจากตำแหน่ง ประธานกก.ยุทธศาสตร์

และหากไม่มี สุดารัตน์ พรรคพท.จะเข้าสู่โหมด ปรับทัพใหม่ เพราะโครงสร้างการบริหารพรรคพท. แม้ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ หัวหน้าพรรคพท. จะมีสถานะเป็นหัวเรือใหญ่ แต่การบริหารอยู่ในมือของ เด็กเจ๊หน่อย

แรงต่อต้านภายในพรรคพท.ที่เกิดขึ้นในระยะหลัง คือการต่อต้าน “เจ๊หน่อย-เด็กเจ๊หน่อย” ทำให้บรรดา “คู่แค้นเจ๊หน่อย” รอจังหวะลงดาบอยู่

ดังนั้นจึงต้องจับตาดูว่า การเลือกตั้งซ่อม เขต 2 จ.กำแพงเพชร ที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า “เจ๊หน่อย” จะแก้มือได้หรือไม่ หากสามารถนำทัพยึดพื้นที่มาครองได้ โอกาสที่จะกุมอำนาจในพรรคพท.ต่อมีสูง

แต่หากไม่สามารถนำทัพพรรคพท. ประกาศศักดายึดพื้นที่จาก พรรคพปชร. ได้ อาจจะเวลาที่ “เจ๊หน่อย” ต้องสละเก้าอี้ แล้วที่บอกว่าหลังกลับจากหาเสียงต้องร้องไห้ทุกวัน อาจเป็นเพราะรู้ “ชะตา” ของตัวเองดีก็ได้

โดย... หมัดเมา