การ 'ถกเถียง' ในเรื่องที่ต่างรู้ดีว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไรนั้น ไม่ควรที่จะเกิดขึ้น เมื่อรู้กันแล้วว่าอะไรผิดอะไรถูก ก็ไม่มีความจำเป็นถกเถียง
แต่ยังมีบางสถานการณ์ที่ทำให้ผู้คนถกเถียงกันได้ทั้งๆ ที่รู้เต็มอกว่ากำลังถกเถียงด้วยความไม่จริง ยิ่งไปกว่านั้นโอกาสที่เราต้องรับภาระในการถกเถียงเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องมีมากขึ้นตามปริมาณการใช้งานเครือข่ายสังคม อยู่ดีๆก็มีเรื่องต้องเถียงกันในเครือข่ายสังคมกับคนที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน ถ้าตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเถียงกันใน เรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ควรจะทำอย่างไรกันดี ชีวิตจึงจะไม่เป็นทุกข์
หนทางที่ดีที่สุดคือ หลีกเลี่ยงที่จะนำตนเองเข้าสู่วงการถกเถียงนั้น ถ้ากลุ่มไลน์กลุ่มไหน ชอบหยิบยกมโนมาขีดเขียน แล้วก็เถียงกันไปมาตามแต่มโนของแต่ละคน ต่อมาต่างคนต่างมีกองหนุนมาช่วยถกเถียงเติมเต็มมโนกันไปอย่างต่อเนื่อง ขอให้รีบถอนตัวออกจากกลุ่มนั้นโดยเร็ว ก่อนที่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของการถกเถียงนั้นด้วย ซึ่งน่าแปลกที่การถกเถียงในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องนั้นเป็นสิ่งเสพติดง่าย เมื่อใดที่เราร่วมวง เมื่อนั้นถอนตัวออกยากมาก ที่ยากก็เพราะอัตตาของตนยึดติดไว้ไม่ให้ถอนตัวออกมา คือเสพการถกเถียงแล้วอัตตาจะยึดติดตัวเราอยู่กับการถกเถียงนั้น ทุกวันนี้มีตัวอย่างให้เห็นกันมากมาย ตั้งแต่เด็กหนุ่มสาว ไปจนถึงคนสอนหนังสือในมหาวิทยาลัยที่เสพติดการถกเถียงเรื่องไม่เป็นเรื่อง วันแต่ละวันต้องออกตัวเป็นข่าวว่าถกเถียงกับใครอยู่บ้าง ถ้าไม่อยากเสพติดการถกเถียง จงออกจากวงการถกเถียงให้ได้ก่อนที่ตัวเราจะเสพติดการถกเถียงนั้น
ถ้าหนีไม่พ้นจากการต้องถกเถียงเรื่องไม่เป็นเรื่อง ให้ตระหนักตนเองให้ดีก่อนว่า เป็นการเถียงไปตามความจำเป็น ไม่ใช่เถียงเพราะเสพติดการถกเถียงนั้น เพราะถ้าเถียงตามความจำเป็นนั้น อาจจบลงได้ทั้งชนะทั้งแพ้ โดยเราไม่เสียจริต คือเราหยุดได้ ยุติได้ แต่เถียงตามเสพติดนั้น จะเถียงจนกว่าจะรู้สึกว่าได้รับชัยชนะในการถกเถียงนั้น หรือได้สร้างความรู้สึกเจ็บปวดอย่างใดอย่างหนึ่งให้กับคู่ถกเถียง ซึ่งเถียงกันแบบนี้ยุติไม่ได้ มีแต่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันไปเหมือนร้องลำตัด ร้องเพลงฉ่อย
ถ้ารู้ตัวแล้วว่า เถียงตามความจำเป็นจริงๆ ยอมไม่มีประโยชน์อะไรที่จะโทสะกับถ้อยคำที่อีกฝ่ายหนึ่งใช้ถกเถียง และไม่จำเป็นที่ต้องหยาบคาย หรือตอบโต้อย่างรุนแรง เพราะเราไม่ได้หวังจะชนะ แต่หวังจะยุติการถกเถียงนั้นลงให้ได้ พยายามลดถ้อยคำที่นำไปสู่การเผชิญหน้า ในขณะที่พยายามทำให้ดูเหมือนว่ากำลังตั้งใจรับฟังประเด็นของเขาอย่างจริงจัง ถ้าไม่ใช่คู่ถกเถียงที่เพี้ยนอย่างหนักแล้ว การแสดงท่าทีว่ารับฟังประเด็นของเขา มักเปิดโอกาสที่จะยุติการถกเถียงลงได้ ในเมื่อรับฟังแล้ว ทบทวนแล้วว่าประเด็นของเขาคืออะไร ฟังอย่างสงบ ปราศจากท่าทีดูหมิ่นเหยียดหยามแล้วจะเหลืออะไรให้คนปกติถกเถียงกับเราต่อไปได้อีก
บ่อยครั้งที่การกล่าวตอบการถกเถียงด้วยถ้อยคำที่คิดว่าน่าจะตลกขบขันอาจไม่ได้ผลอย่างที่คาดไว้ คาดว่าตอบไปแบบตลกๆ น่าจะทำให้คู่ถกเถียงลดเพดานลงมาได้บ้าง อารมณ์ขันน่าจะทุเลาอารมณ์ของคู่ถกเถียงลงได้ ซึ่งมักเป็นการคาดการณ์ที่ผิด ถ้อยคำตลกๆ ใช้ในการถกเถียงได้เฉพาะเมื่อเป็นการถกเถียงกันในหมู่คนที่ยังคิดว่าพอที่จะยังเป็นเพื่อนฝูงกันได้ แต่กลายเป็นท่าทีดูแคลนหากนำไปใช้ในการถกเถียงนอกวงเพื่อนฝูงญาติมิตร ระลึกไว้เสมอว่ากำลังถกเถียงกับคนที่เสพติดการถกเถียง ซึ่งอารมณ์ขันหมดไปตั้งแต่เริ่มเสพติดแล้ว เสียงหัวเราะที่ได้ยินได้เห็นนั้นไม่ใช่อารมณ์ขัน แต่เป็นเพียงกุศโลบายในการถกเถียงอย่างหนึ่งเท่านั้น
เมื่อใดก็ตามที่เริ่มรู้สึกว่าอยากจะตอบโต้การถกเถียงด้วยเรื่องราวส่วนตัวของคู่ถกเถียง ชักอยากบอกเรื่องหน้าตาท่าทาง เรื่องบุพการี หรืออะไรอื่นในทำนองเดียวกัน แสดงว่าเรากำลังจะเสพติดการถกเถียงนั้นแล้ว การยกเรื่องส่วนตัวมาตอบโต้ไม่มีทางทำให้การถกเถียงยุติลงได้เลย
ทุ่มเทเถียงในเรื่องไม่เป็นเรื่องจนชนะนั้น มีประโยชน์เกิดขึ้นน้อยกว่าการเอาเวลาและสติปัญญาไปทำอย่างอื่นในชีวิตมากมายนัก///