นักเขียนยอดฮิต | วรากรณ์ สามโกเศศ
ไม่น่าเชื่อว่ามีนักเขียนภาษาอังกฤษคนหนึ่งในปัจจุบัน ที่ประสบความสำเร็จในระดับโลกอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น แถมมีแฟนนักอ่านนับหลายร้อยล้านคนทั่วโลก มีคนแปลหนังสือไปแล้วกว่า 35 ภาษา ในเวลา 10 ปีเศษที่เป็นนักเขียนได้ขายหนังสือไปแล้วกว่า 20 ล้านเล่ม ขณะนี้เธอเป็นนักเขียนนิยายโรมานซ์ที่ดังสุดของโลก
ในปี 2023 นิตยสาร Time เลือกเธอเป็นบุคคล 1 ใน 100 ที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลก
เธอผู้นี้มีชื่อว่า Collen Hoover อายุเพียง 44 ปี เมื่อ 10 ปีเศษๆ ก่อนหน้านี้เธอเป็นนักสังคมสงเคราะห์ที่มีรายได้เพียง 9 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง เป็นลูกเกษตรกรชาวเท็กซัส มีลูกชาย 3 คน
ตอนเริ่มเขียนในปี 2011 ตั้งใจเขียนเล่นๆ ให้เพื่อนอ่านเพื่อความสนุก แต่เมื่อได้อ่านกันก็บอกว่าสนุกมากจนเธอคิดพิมพ์ขายเอง ต่อมามีคนเอาไปรีวิวและเกิดฮิตขึ้นมาด้วยโซเชียลมีเดีย และเป็นที่นิยมอย่างมากอีกหลายเล่มติดๆ กัน
แนวของหนังสือเธอคือ โรมานซ์สำหรับวัยรุ่นและวัยต้นผู้ใหญ่ พล็อตเรื่องมีรักโรมานซ์พันกับฆาตกรรม ผี นักสืบ เรื่องตื่นเต้น ความรุนแรงในครอบครัว ชีวิตและความรัก ฯลฯ หลายเล่มแฝงด้วยเซ็กส์จนถูกใจวัยรุ่น ในรายชื่อหนังสือที่ขายดีที่สุดในสหรัฐ 25 เล่มในปี 2022 เป็นของเธอ 8 เล่ม
หนังสือของเธอครองอันดับ 1 ถึง 3 แต่ละเล่มขายได้ประมาณ 2 ล้านเล่มในปี 2022 (เล่มที่ 1 It Ends with Us ขายได้เกือบ 3 ล้านเล่ม, เล่มที่ 2 Verity ขายได้ 2 ล้านเล่ม และเล่มที่ 3 It Starts with Us ขายได้เกือบ 2 ล้านเล่ม) หนังสือของเธอมากกว่า 23 เล่ม ติดอันดับของ New Yew Time Best Selling Author
Colleen เรียนจบปริญญาตรีด้านสังคมศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Texas A&M-Commerce แต่งงานตอนอายุ 20 ปี และมีลูก 2 คนก่อนเรียนจบ โดยเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย
เมื่อเรียนจบทั้งเธอและสามีซึ่งในตอนนั้นขับรถบรรทุก ต้องทำงานหนักเพื่อลูกอายุ 10 ถึง 6 ขวบ ไม่มีเงินซื้อแล็ปท็อป จนต้องขอยืมแม่เพื่อเอามาเขียนนิยาย เธอเขียนทุกคืนก่อนนอนเพื่อให้บรรลุความฝันของการเป็นนักเขียน
เธอใช้โอกาสที่ตอนนั้น Amazon อนุญาตให้นักเขียนอัปโหลดหนังสือฟรี ตอนแรกอ่านกันเฉพาะคนใกล้ชิด ต่อมาขยายวงออกไป มีการซื้อขายและรายได้ก็ทยอยเข้ามาอย่างน่าตกใจ เธอพิมพ์ขายเองเป็นเล่มในตอนแรก และต่อมาก็ทำเป็นการค้าเต็มตัว โดยร่วมพิมพ์กับสำนักพิมพ์หลายแห่ง
“It Ends with Us” เป็นหนังสือที่ขายดีอันดับหนึ่ง นับตั้งแต่วางตลาดในปี 2016 โดยเป็นเล่มที่เขียนยากที่สุดสำหรับเธอ เพราะพล็อตมาจากชีวิตจริงของเธอที่ประสบความรุนแรงในครอบครัวจากพ่อตั้งแต่ยังเด็ก
เธอรักแม่มาก แต่แม่ก็ทนอยู่กับพ่อเธอทั้งที่รู้ว่าไม่ใช่คนดีแต่เป็นคนที่เธอรักอย่างที่เขาไม่สมควรได้รับความรักเลย พล็อตนี้จับใจผู้คนที่ประสบสภาวการณ์อย่างเดียวกันและกลายเป็นพล็อตเฉพาะของเธอในอีกหลายเรื่อง
หนังสือของเธอมีพล็อตเรื่องโยงใยกันหลายเล่ม มีเล่มต้น เล่มกลาง และเล่มจบ จนผู้อ่านต้องติดตามกันอย่างงอมแงม ความรุนแรงในครอบครัวเป็นเรื่องที่เธอให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เธอสามารถเอามาผูกเป็นพล็อตให้ตื่นเต้นได้อย่างน่าแปลกใจ และอีกหลายเล่มในหลายสไตล์ก็มีพล็อตที่สนุก ตื่นเต้นและเร้าใจ
ผู้เขียนได้อ่านเรื่อง “Verity" และเข้าใจได้ว่าเหตุใดเธอจึงได้รับความนิยมอย่างไม่มีนักเขียนคนใดในยุคปัจจุบันทาบได้ ยกเว้น J.K. Rowling ผู้เขียน Harry Potter ที่ใช้เวลา 26 ปีในการขายหนังสือได้ 500 ล้านเล่ม
หนังสือของเธอถูกเหยียดโดยนักวิชาการว่าเป็นเพียงนิยายโรมานซ์ซึ่งขายความรู้สึกหวือหวา ไม่น่าจะอยู่ได้นานเพราะไม่ใช่หนังสือ “คลาสสิก” แต่ไม่ว่าจะถูกวิจารณ์อย่างไร เธอก็เป็นขวัญใจของนักอ่านผู้หญิงรุ่นใหม่ในโลกจำนวนนับร้อยล้านคน
ผู้เขียนคิดว่ามีหลายประเด็นที่น่าขบคิดจากเรื่องราวของเธอดังต่อไปนี้
(1) เธอสามารถใช้เงื่อนไขของโลกสมัยใหม่ให้เป็นประโยชน์ได้อย่างดียิ่ง แทนที่จะหาสำนักพิมพ์เพื่อให้ตอบรับและตีพิมพ์ขายดังที่ปฏิบัติกันมาช้านาน เธอกลับพิมพ์ขายเอง
โดยเริ่มจากอัปโหลดหนังสือเพื่อขายก่อน นอกจากนี้ TikTok เป็นเครื่องมือสำคัญยิ่งที่ช่วยโหมจนหนังสือของเธอลุกเป็นไฟ โดยเฉพาะ Book-tok ที่เป็นชุมชนเล็กๆ ของ TikTok ที่เจาะจงในเรื่องหนังสือ
(2) เธอตอบสนองตลาดวัยรุ่นและวัยต้นผู้ใหญ่ที่หลากหลายด้วยการมีพล็อตที่สนุกและโดนใจโดยแฝงอยู่ในเรื่ิองโรมานซ์
(3) เธอทำตามความฝันอย่างไม่เคยหยุด จากชีวิตที่ลำบากต้องทำงานหนักเพื่อครอบครัวอย่างไม่มีเวลาว่าง แต่ก็สามารถเจียดเวลามาเขียนวันละเล็กน้อยจนประสบความสำเร็จ
(4) เธอตอบแทนสังคมด้วยการเปิดร้านที่มีชื่อว่า The Bookworm Box Bookstore ขายหนังสือพร้อมลายเซ็นของเพื่อนนักเขียนและของเธอให้แฟนๆ จัดกิจกรรมเกี่ยวพันกับเรื่องการอ่านและการเขียน ฯลฯ โดยหาเงินให้การกุศลได้ปีละเป็นล้านดอลลาร์ ทั้งหมดคือการใช้ชื่อเสียงความดังให้เป็นประโยชน์แก่ผู้ขาดโอกาส
(5) ประเด็นนี้สำคัญเพราะผู้เขียนทราบว่าขณะนี้หลายโรงเรียนนานาชาติและโรงเรียนไทยที่เน้นการใช้ภาษาอังกฤษ มีการแนะนำให้เด็กวัยรุ่นอ่านหนังสือของ Colleen กัน
ครูและผู้ปกครองอาจไม่รู้ว่าแต่ละเล่มของเธอนั้นเหมาะกับผู้คนในแต่ละวัยอย่างแตกต่างกัน (มีตารางแนะนำชื่อหนังสือของเธอกับวัยอ่านที่เหมาะสม) บางเล่มนั้นฉากเซ็กส์ค่อนข้างชัดเจนและหลายเล่มมีเรื่องเซ็กส์อยู่ในพล็อต
ผู้ปกครองและครูอาจต้องพิจารณาแนะนำให้ลูกหลานอ่านเล่มที่เหมาะสม เพราะหนังสือของเธอนั้นมีความหลากหลายสูงแต่ก็มีเรื่องเพศปนอยู่ไม่น้อย
ข่าวดีสำหรับผู้สนใจงานของ Colleen บัดนี้มีหนังสือแปลเป็นภาษาไทยออกมาหลายเล่ม โดยเฉพาะเล่มที่ฮิตมากๆ เช่น It Ends with Us และ Ugly Love ฯลฯ และกำลังแปลอีกหลายเล่มอยู่ในขณะนี้
หากอยากรู้ว่าทำไมเธอจึงดังมากและอยากมีรสนิยมร่วมสมัยกับคนรุ่นใหม่ ต้องลองอ่านหนังสือของ Colleen Hoover ดูครับ