Krungthai CIO แนะเพิ่ม’เงินสด’ รอตลาดปรับลง เก็บหุ้นคุณภาพดี-ปลอดภัย
Krungthai CIO ชี้ตลาดผันผวนต่อไตรมาส3 นี้ ส่อปรับลง เหตุนักลงทุนกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยช้ากว่าเงินเฟ้อ เศรษฐกิจเสี่ยงเข้าสู่ภาวะ Stagflation แนะระยะสั้นถือเงินสดรอตลาดปรับลง เข้าเก็บหุ้นคุณภาพดี-ปลอดภัย กลุ่มพลังงาน-เฮลธ์แคร์-คอมมูนิตี้ และหุ้นเวียดนาม-ญี่ปุ่น โตดี
นายประมุข มาลาสิทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า มุมมองการลงทุน Krungthai CIO คาดว่าต่อจากนี้ถึงช่วงไตรมาส 3 ตลาดจะยังคงผันผวนต่อไป โดยมองว่าตลาดอาจจะตัวลงต่อได้ เนื่องจากปัจจัยลบหลักยังคงเป็นปัจจัยที่กดดันตลาดและยังไม่มีแนวโน้มที่จะดีขึ้นชัดเจนในช่วงระยะสั้น
ปัจจัยลบที่ Krungthai CIO เป็นกังวล ได้แก่ ประเด็นเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด(FED)ซึ่งตลาดเริ่มมีความกังวลว่าFED อาจจะขึ้นดอกเบี้ยช้ากว่า อัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะStagflation โดยคืนที่ผ่านมาตลาด US treasury bond 10yr ได้ปรับสูงขึ้นเกินระดับ 3% และปัจจัยอื่นๆ ไม่ว่าเรื่องโควิดในจีน และสงครามรัสเซียยูเครน ก็ยังไม่มีทีท่าที่จะหาทางออกได้
แต่อย่างไรก็ดี เรามองว่าตลาดได้รับรู้ข่าวร้ายดังกล่าวมาระดับหนึ่งแล้ว ราคาหุ้นหลายตัวที่ตลาดสนใจและมีพื้นฐานดีเช่น Alphabet Amazon Microsoft ได้ปรับตัวลงจากสูงสุดกว่า 30% ไปแล้ว
นายประมุข มองว่าหุ้นในกลุ่มนี้หรือหุ้นที่มีพื้นฐานดีเริ่มมีราคาที่น่าสนใจแต่ยังคงแนะนำให้รอจังหวะเข้าซื้อ โดยหากมองปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ยังไม่มองถึง Global Resession เนื่องจากตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกยังคงสูงเกินกว่า 3% และประเทศส่วนใหญ่ได้ผ่อนคลายมาตรการ Lock down ไปแล้ว
การแนะนำการลงทุนปัจจุบันของ Krungthai CIO ยังคงแนะนำให้ลูกค้าเพิ่มสัดส่วนเงินสด เน้นการลงทุนระยะสั้นเมื่อตลาดเกิด Panic หรือ Sell off โดยหุ้นที่แนะนำคือหุ้นกลุ่ม Defensive และ Quality ที่มีฐานะการเงินที่มั่นคง
โดยเรายังคงแนะนำให้นักลงทุนลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน, เฮลธ์แคร์(Healthcare)และสินค้าโภคภัณฑ์( Commodity )ที่ได้รับอานิสงค์จากปัจจัยลบที่ได้กล่าวไปข้างต้น
สำหรับตลาดหุ้นต่างประเทศที่น่าสนใจ ณ ปัจจุบัน ได้แก่ เวียดนาม และ ญี่ปุ่น ที่มีระดับราคาหุ้น( valuation ) เมื่อเทียบกับการเติบโตที่น่าสนใจ