ไทยถกสหรัฐชื่นมื่น ไร้ปมสงครามรัสเซีย - ยูเครน พร้อมหนุนไทยเป็นซัพพลายเชน
“จุรินทร์” ถกผู้แทนการค้าสหรัฐ ขอสหรัฐปลดไทยจากบัญชี Watch List หลังจากไทยเดินหน้าแก้ปัญหาละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเป็นระบบ และให้หนุนไทยเป็นแหล่งผลิตซัพพลายเชนป้อนสหรัฐ ด้านสหรัฐขอไทยร่วมมือประกาศเจตนารมณ์จัดตั้งกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโดฯ - แปซิฟิก
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือทวิภาคี (Bilateral discussions) กับนางแคทเธอรีน ไท ผู้แทนการค้าสหรัฐ ว่า ไทยได้หารือกับสหรัฐใน 3 ประเด็นสำคัญคือ 1.ขอให้สหรัฐพิจารณาถอดไทยออกจากบัญชีจับตามอง หรือ WL(Watch List) ด้านทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งจะมีการพิจารณาอีกครั้งหนึ่งในเดือนก.ย.ปีนี้ เพราะที่ผ่านมาประเทศไทย ถือว่ามีความคืบหน้าอย่างยิ่งในการดำเนินการจัดการการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเป็นระบบ และเป็นรูปธรรม รวมทั้งมีกฎหมายทางด้านทรัพย์สินทางปัญญาที่มีความทันสมัย และมีรายงานจากผู้แทนของสหรัฐ ที่มาติดตามความคืบหน้าการดูแลด้านทรัพย์สินทางปัญญาของไทย รายงานไปในทางบวกที่มีความชัดเจนเป็นรูปธรรมแล้ว
2.ไทยขอให้สหรัฐสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบ และแหล่งลงทุนด้านการผลิตวัตถุดิบทั้งขั้นต้นและขั้นกลางให้กับสหรัฐอเมริกา ตามนโยบายของประธานาธิบดีไบเดน ที่ชื่อว่า “ซัพพลายอเมริกา” ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้แทนการค้าของสหรัฐ โดยวัตถุดิบขั้นกลางในการสนับสนุนการผลิตขั้นต่อไป เช่น การผลิตแบตเตอรี่ที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า การลงทุนด้านวัตถุดิบเกี่ยวกับอาหาร ยา การลงทุนด้านเซมิคอนดักเตอร์ เป็นต้น
3.ได้ขอให้สหรัฐสนับสนุนการออกแถลงการณ์ร่วมของรัฐมนตรีการค้าเอเปค ซึ่งสหรัฐไม่ขัดข้องพร้อมที่สนับสนุนการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทย รวมทั้งสนับสนุนการทำหน้าที่ประธานการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจการค้าของเอเปค
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ในส่วนของสหรัฐ ได้มีการขอให้ไทยช่วยสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคของสหรัฐในปีหน้า พร้อมกับขอเชิญผู้แทนจากประเทศไทย ทั้งภาครัฐและเอกชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมกับสหรัฐอเมริกาต่อไปในปีหน้าด้วย นอกจากนี้สหรัฐได้หยิบยกประเด็นการประชุมระดับรัฐมนตรีองค์การการค้าโลกหรือที่เรียกว่า MC 12 (Ministerial Conference)เพื่อให้ไทยสนับสนุนประเด็นสำคัญ เช่น การปฏิรูป WTO การจัดตั้งองค์กรอุทธรณ์ของ WTOให้เกิดขึ้น ซึ่งมีความสำคัญในการช่วยยุติข้อพิพาทระหว่างสมาชิก และขอให้ไทยเข้าร่วมในการประกาศเจตนารมณ์จัดตั้งกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโดฯ-แปซิฟิก ขึ้นที่กรุงปารีสในช่วงประมาณวันที่ 11 มิ.ย. 2565 ซึ่งตนแจ้งว่าคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้แจ้งความประสงค์ในการเข้าร่วมการแสดงเจตนารมณ์เจรจาต่อไป สำหรับการเชิญรัฐมนตรีพาณิชย์เข้าร่วมประชุมในช่วงที่ปารีสนั้นตนรับทราบเป็นการเบื้องต้น
สำหรับสงครามรัสเซีย-ยูเครนนั้น ทางสหรัฐไม่ได้หยิบยกมาหารือในเวทีนี้ ทั้งนี้การประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปคที่จะรัสเซียเข้าร่วมด้วยคงไม่มีปัญหาอะไร เพราะทุกอย่างต้องเดินไปตามระบบ กฎเกณฑ์และกติกา
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่าในเดือนก.ย.2565 สหรัฐจะมีการทบทวนสถานะการให้ความคุ้มครองด้านทรัพย์สินทางปัญญาของไทย ซึ่งกรมฯ ตั้งเป้าต้องการให้สหรัฐปลดไทยออกจากบัญชี WL ให้ได้ภายในปีนี้
สำหรับมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐ ปี 2564 มีมูลค่าการค้าระหว่างการ 56,000 ล้านดอลลาร์หรือ คิดเป็น 1.77 ล้านล้านบาท ถือเป็นคู่ค้าลำดับสำคัญลำดับที่ 3 ของไทย รองจากจีน และ ญี่ปุ่น ซึ่งสหรัฐเป็นตลาดส่งออกลำดับ 1 ของไทยโดยมีมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยไปสหรัฐ 41,000 ล้านดอลลาร์ คิดเป็น 1.31 ล้านล้านบาท สินค้าส่วนใหญ่ที่ส่งไปสหรัฐ เช่น คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์ยาง อัญมณีและเครื่องประดับ รถยนต์ และอุปกรณ์ยานยนต์ เป็นต้น
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์