“อุตตม”ชู “3 พร้อม”ติดปีก”ท่องเที่ยวไทย”สร้างรายได้สู้พิษเศรษฐกิจ

“อุตตม”ชู “3 พร้อม”ติดปีก”ท่องเที่ยวไทย”สร้างรายได้สู้พิษเศรษฐกิจ

“อุตตม”ชู “3 พร้อม” ติดปีก ”ท่องเที่ยวไทย” ฟื้นตัวเร็ว สร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง เพื่อเป็นแหล่งรายได้สำคัญดูดซับแรงกระแทกจากสารพัดปัญหาเศรษฐกิจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(8มิ.ย.) ดร.อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัว ระบุว่า หลังจากที่ประเทศไทยเปิดรับนักท่องเที่ยวเต็มรูปแบบเมื่อ 1  มิ.ย. ที่ผ่านมา ตนเชื่อว่าท่านที่อยู่ในแวดวงธุรกิจท่องเที่ยวต่างก็รู้สึกกลับมามีความหวังอีกครั้ง

ตนเองก็รู้สึกเช่นนั้น และยังคิดหวังต่อไปอีกว่า หากเราสามารถพลิกฟื้นการท่องเที่ยวได้อย่างรวดเร็ว ก็จะส่งผลดีต่อประเทศในแง่แหล่งรายได้ ที่มาช่วยดูดซับแรงกระแทกจากปัญหานานับประการที่กำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน และที่สำคัญจะช่วยผ่อนคลายแรงกดดันของผู้ประกอบการในทุกกลุ่ม เป็นโอกาสให้พวกเขาฟื้นฟูกิจการและกลับมาเข้มแข็งได้อีก

อย่างไรก็ตามการที่เราจะพลิกฟื้นภาคการท่องเที่ยวได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืนนั้น ตนมีความเห็นว่า รัฐบาลสมควรให้ความสำคัญเพิ่มเติมใน 3 ประเด็น ซึ่งขอเรียกสั้นๆว่า “3 พร้อม” ประกอบด้วย

 1.พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว โดยมุ่งเสริมสร้างให้เกิดความได้เปรียบเหนือประเทศคู่แข่งในการดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย วันนี้ทุกประเทศต่างหวังรายได้จากการท่องเที่ยว จึงแข่งขันกันในการอำนวยความสะดวก การสร้างกิจกรรมที่น่าสนใจ ฯลฯ ดังนั้นเราต้องจัดการเรื่องต่างๆเหล่านี้ให้พร้อมเต็มที่ เพื่อสร้างความได้เปรียบที่เหนือกว่าประเทศคู่แข่ง

2.พร้อมช่วยเหลือสนับสนุนผู้ประกอบการ ให้เข้มแข็งสามารถฟื้นฟูกิจการ และใช้โอกาสนี้เพื่อสร้างรายได้โดยเร็ว ทั้งนี้ตลอดเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา วิกฤตโควิดทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่อ่อนแอ มีภาระหนี้สิน วันนี้ฟ้าเริ่มเปิดแต่พวกเขากลับไม่มีเรี่ยวแรงที่จะเดินต่อ เพราะขาดเงินทุนโดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ดังนั้นรัฐบาลต้องช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุน แม้ปัจจุบันจะมีแพคเกจช่วยเหลือจากภาครัฐอยู่ แต่ก็เป็นที่รับรู้กันว่ายังมีผู้ประกอบการอีกจำนวนมากที่หาแหล่งเงินกู้ไม่ได้ เพราะคุณสมบัติไม่เข้าเกณฑ์ด้านรายได้ หรือสินทรัพย์ค้ำประกันไม่พร้อม

“เราต้องยอมรับความจริงว่า สถานการณ์โควิดและเศรษฐกิจในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา กระทบผู้ประกอบการอย่างรุนแรง นอกจากรายได้จะหายไปแล้ว ทุนที่มีอยู่ก็ถูกนำมาใช้จนร่อยหรอแทบหมดลง”
 

 ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยว ต้องร่วมกันจัดหามาตรการที่ถือเป็นมาตรการพิเศษ มาช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงเงินทุนได้อย่างเพียงพอโดยรวดเร็ว เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถใช้โอกาสที่การท่องเที่ยวมีสัญญาณพลิกฟื้นได้อย่างเต็มศักยภาพ รวมทั้งบรรเทาปัญหาหนี้สินก่อนที่จะทรุดหนักไปมากกว่านี้ 
3.พร้อมสนับสนุนและลงทุน เพื่อขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวโดยเร็ว การท่องเที่ยวจะฟื้นตัวได้อย่างยั่งยืนนั้น จำเป็นต้องเกิดการลงทุนใหม่ จากการที่ผมได้พูดคุยกับผู้ประกอบการเอกชนหลายรายในพื้นที่การท่องเที่ยวต่างๆของประเทศ พบว่า ผู้ประกอบการต้องการลงทุน
อย่างไรก็ตาม ในภาวะที่เศรษฐกิจยังมีความท้าทายและความเสี่ยงมากเช่นนี้ ผมเห็นว่า รัฐบาลสมควรพิจารณามาตรการที่จะส่งเสริมจูงใจให้เอกชนลงทุน พร้อมทั้งสื่อสารให้ผู้ประกอบการทราบอย่างชัดเจน เช่น รัฐบาลมีแผนลงทุนที่เกื้อหนุนภาคการท่องเที่ยวในทันทีอย่างไรบ้าง รัฐบาลจะช่วยผู้ประกอบการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพบุคลากรในภาคการท่องเที่ยวอย่างไรบ้าง รวมถึงการพิจาณาสิทธิประโยชน์เป็นกรณีพิเศษ เพื่อกระตุ้นและจูงใจให้ภาคเอกชนเกิดการลงทุนในรูปแบบใดบ้าง เป็นต้น
หากรัฐบาลสามารถดำเนินการในเรื่องเหล่านี้และอื่นๆที่เกี่ยวเนื่องได้รวดเร็ว ก็จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคเอกชนเดินหน้าลงทุน ทั้งกลุ่มผู้ลงทุนจากในประเทศและต่างประเทศ

ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่ทุกภาคส่วนยังเผชิญปัญหาอยู่นั้น ภาคท่องเที่ยวดูจะเห็นแสงรำไรที่จะก้าวต่อไปได้บ้างแล้ว อย่างไรก็ดี การที่ผู้ประกอบการจะสามารถใช้โอกาสได้อย่างเต็มที่ในปัจจุบัน ผมเห็นว่ารัฐบาลจำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือสนับสนุนอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการสื่อสารถึงยุทธศาสตร์และการดำเนินการของภาครัฐ โดยเน้นระยะสั้นเฉพาะหน้า นอกเหนือจากยุทธศาสตร์ระยะยาว

โดยเป้าหมายหลักนั้นไม่ใช่มุ่งหวังเพียงปริมาณนักท่องเที่ยวเข้าประเทศเท่านั้น แต่ภาครัฐและเอกชนควรร่วมกันพัฒนาภาคการท่องเที่ยวให้เป็นเครื่องยนต์เศรษฐกิจที่เข้มแข็ง มีขีดความสามารถการแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างแท้จริง ซึ่งการดำเนินการเหล่านี้จะเป็นรูปธรรมและทันการณ์ได้นั้น

"เราต้องร่วมมือกันดำเนินการเชิงรุก ต้องไม่ปล่อยให้ทุกอย่างเดินไปตามธรรมชาติ ขาดทิศทางที่ชัดเจน"