IMF แนะ CBDC ต้องใช้งานง่ายและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF แนะ CBDC ต้องใช้งานง่ายและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยไม่ใช้ระบบ PoW เพื่อลดระดับคาร์บอนจากการทำธุรกรรม
เว็บไซต์ bitcoinist.com รายงานว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ได้แนะนำการสร้างระบบการชำระเงินด้วยแนวทางปฏิบัติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับการใช้พลังงานตามกลไกของคริปโทเคอรร์เรนซี่ต่างๆ ในระบบนิเวศด้วย
การใช้พลังงานสูงจากสกุลเงินดิจิทัลโดยใช้กลไก Proof-of-Work (PoW) ก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อสิ่งแวดล้อมสูงอันเนื่องมาจากการปล่อยควันที่มีคาร์บอนไดออกไซด์ ดังนั้นผลกระทบโดยตรงจากการขุดโทเคนหรือคริปโทใด ๆ ทำให้คนหันมาสนใจเรื่องสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ควรใช้ระบบแบบ PoW
IMF อธิบายอย่างละเอียดว่าโทเคนและคริปโทแต่ละตัวมีองค์ประกอบการออกแบบที่กำหนดการใช้พลังงานต่างกัน ดังนั้น IMF จึงตั้งใจที่จะศึกษาเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล และ การใช้พลังงาน เพื่อทำแผนที่กลไกที่ดีที่สุดและเหมาะสมกับการออกแบบของ CBDC (Central Bank Digital Currencies)
นอกจากนี้ IMF ยังได้หารือเกี่ยวกับนโยบายที่ดีเกี่ยวกับอิทธิพลของสกุลเงินดิจิทัลที่มีต่อสิ่งแวดล้อม โดยแนะนำว่านักพัฒนาควรละเว้นการใช้โปรโตคอลแบบ PoW
ทั้งนี้กองทุนได้เปรียบเทียบประสิทธิภาพการใช้พลังงานของโปรโตคอลแบบอื่นนอกเหนือจากระบบ PoW กับระบบการเงินแบบดั้งเดิม พบว่าโครงสร้างการออกแบบหลักและระบบการชำระเงินของแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้งานด้วยระบบ PoW นั้นเหมาะสำหรับผู้ใช้มากกว่า
องค์กรชี้ให้เห็นว่าบิตคอยน์เป็นโปรโตคอลยอดนิยมที่ทำงานด้วยการใช้กลไก PoW ทำให้บิตคอยน์มีการใช้พลังงานต่อปีประมาณ 144 เทราวัตต์ต่อชั่วโมง ซึ่งสามารถลดต้นทุนด้านพลังงานสำหรับการทำธุรกรรมได้ แต่สุดท้ายแล้วการใช้พลังงานทั้งหมดเหล่านี้ยังคงมีมูลค่าที่สูงอยู่
IMF ได้ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับ CBDCs ว่าสามารถทำงานได้ดี โดยธนาคารกลางควรให้ความสำคัญกับการพัฒนา CBDC ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่กว่าที่จะทำให้เป้าหมายดังกล่าวเป็นจริงต้องผ่านกระบวนการอีกหลายขั้นตอน ดังนั้นผู้พัฒนา CBDC จึงต้องเลือกแพลตฟอร์มและฮาร์ดแวร์ที่เหมาะสม และสามารถรักษาระดับคาร์บอนให้ต่ำกว่าระบบเดิมที่ธนาคารกลางใช้อยู่
ทั้งนี้ IMF ได้รวมการประมาณการการใช้พลังงานผ่านระบบการชำระเงินของโลกในหนึ่งปี มีมูลค่าการใช้พลังงานอยู่ที่ 47.3 เทราวัตต์ต่อชั่วโมง ซึ่งเทียบเท่ากับการบริโภคพลังงานประจำปีของบางภูมิภาค เช่น บังกลาเทศและโปรตุเกส
อย่างไรก็ตาม CBDC ควรมีคุณสมบัติที่โดดเด่นบางอย่าง เช่น ความยืดหยุ่นที่สูงขึ้น ความสามารถออฟไลน์ และการปฏิบัติตามข้อกำหนด