โลกปรับ เกมเปลี่ยน องค์กรต้องเตรียมรับมือกับ ‘โอกาส’ และ ‘ความเสี่ยง’ ใหม่ ที่กำลังจะมาถึงอย่างไร?
เมื่อโลกปรับและเปลี่ยนไว การเตรียมองค์กรหรือธุรกิจให้พร้อมรับมือกับความเสี่ยงในหลากหลายมิติคือสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะการบริหารความเสี่ยงจากบุคคลภายนอก ที่ปัจจุบันมีความสลับซับซ้อน และอาจนำมาซึ่งความผิดพลาด สร้างความเสียหายให้กับธุรกิจได้
เศรษฐกิจทั่วโลกต่างเผชิญกับวิกฤติรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์โควิด-19 ที่เข้ามา "ดิสรัป" วิถีชีวิตผู้คนภายในชั่วข้ามคืน เศรษฐกิจในรอบปีที่ผ่านมามีความผันผวนอย่างยิ่ง ทั้ง วิกฤติเงินเฟ้อ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลายประเทศทั่วโลก การปลดคนของบรรดา "Big Tech" การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน หรือกระทั่ง ภัยคุกคามทางไซเบอร์
แม้ในปีนี้จะเริ่มเห็นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของหลายประเทศกันบ้างแล้ว แต่จากสารพัดข้อกังวลที่กล่าวมาก็ทำให้องค์กรภาคเอกชน ต้องประเมินสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิดเพื่อการดำเนินงานที่รัดกุม และให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในทุกขั้นตอน
งานวิจัยชิ้นล่าสุดจาก เคพีเอ็มจี อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ KPMG องค์กรตรวจสอบบัญชีชั้นนำระดับโลก ได้ทำการเก็บผลสำรวจจากผู้บริหารองค์กรที่เกี่ยวข้องกับ TPRM (Third Party Risk Management) หรือการบริหารความเสี่ยงจากบุคคลภายนอก จำนวน 1,263 คน ใน 6 ภาคอุตสาหกรรม จาก 16 ประเทศทั่วโลก
จากผลการสำรวจ พบว่า "TPRM" มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์สำหรับการประกอบธุรกิจถึง 85 เปอร์เซ็นต์ โดยเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นก่อนการเกิดวิกฤติโควิด-19 ซึ่งมีสัดส่วนอยู่ที่ 77 เปอร์เซ็นต์
การสำรวจครั้งนี้ของ เคพีเอ็มจี แสดงให้เห็นว่า องค์กรทั่วโลกมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องยกระดับรูปแบบและขั้นตอนในการดำเนินงาน รวมถึงเตรียมพร้อมจัดการความเสี่ยงในหลากหลายมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริหารความเสี่ยงจากบุคคลภายนอก เพราะยิ่งธุรกิจเติบโตมากขึ้นเท่าไร การใช้บริการหรือเชื่อมต่อกับบุคคลภายนอกก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพื่อให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้ทันการเปลี่ยนแปลงของโลก
นอกจากนั้น ยังพบด้วยว่า 62 เปอร์เซ็นต์ของผู้บริหารองค์กรมองว่า การจัดการความเสี่ยงและการกํากับดูแลในองค์กรในปัจจุบันทําให้การเปลี่ยนแปลงด้านธุรกิจเป็นไปได้อย่างล่าช้า โดยหลายองค์กรยังคงจัดการความเสี่ยงและกำกับดูแลแบบ "แยกส่วน" ซึ่งการทำงานในรูปแบบเดิมๆ นี้ไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป และอาจกลายเป็นช่องโหว่ให้เกิดข้อผิดพลาดระหว่างทาง นำมาซึ่งความเสียหายทางธุรกิจได้ในที่สุด
นอกจากนี้ จากการสำรวจยังพบ 5 ข้อกังวลใจ ที่ถูกพูดถึงค่อนข้างมาก ในเรื่องการจัดการความเสี่ยง ที่น่าจะเกิดจากความเข้าใจผิด ไม่ว่าจะเป็นการที่..
1. กลัวว่า การปรับเปลี่ยนการจัดการความเสี่ยง อาจทำให้กระบวนการทำงานมีความซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ก็ซับซ้อนมากอยู่แล้ว
ความจริง : การรวมศูนย์ข้อมูลให้เป็นแหล่งเดียว สามารถทําให้เห็นการวิเคราะห์ และเชื่อมโยงข้อมูลจากหลายๆ แหล่งเข้าด้วยกันได้ ซึ่งลดความซับซ้อนที่มีอยู่เดิม และยังทําให้เราสามารถบริหารจัดการ และตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้น
2. กลัวว่า เทคโนโลยีที่จะนำมาใช้ในการจัดการความเสี่ยง จะมีค่าใช้จ่ายที่สูง และต้องใช้เวลานานในการดำเนินการ
ความจริง : แทนที่องค์กรจะเริ่มต้นจากศูนย์ซึ่งกว่าจะเห็นผลอาจต้องใช้เวลานานอย่างที่คาดการณ์ไว้ แต่ด้วยโซลูชันของเคพีเอ็มจี สามารถที่จะช่วยลดระยะเวลาดำเนินการให้สั้นลง เพราะองค์กรไม่จําเป็นต้องเริ่มจากศูนย์ แต่เป็นการตรวจสอบความถูกต้องตามเป้าหมายที่ต้องการ และสามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับองค์กรนั้นๆ
3. กลัวว่า คนทำงานจะปรับตัวหรือรับมือกับวิธีการทำงานใหม่ๆ ได้ยาก
ความจริง : เทคโนโลยีทันสมัยสามารถช่วยให้เกิดความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีได้มากกว่าจะเข้าไปขัดขวางการทำงาน นอกจากนี้ สิ่งที่มืออาชีพทุกคนต่างก็อยากจะใช้เทคโนโลยีทันสมัยที่เอื้อให้การทำงานสะดวกรวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้นทั้งนั้น
4. กลัวว่า การนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามา จะเป็นการผลักคนทำงานออกไปหรือไม่
ความจริง : การนําระบบการทํางานแบบอัตโนมัติมาทดแทนส่วนที่ใช้แรงงานนั้น จะช่วยลดภาระงานของหน่วยงานบริหารความเสี่ยงและการกํากับดูแล ทําให้สามารถทุ่มกำลังในการจัดการความเสี่ยงขององค์กรได้ดีขึ้น
5. กลัวว่า การแก้ปัญหาแบบ Out-of-the-box จะไม่ตรงกับ Pain Point ขององค์กรที่มีความเฉพาะตัวได้
ความจริง : เคพีเอ็มจี มุ่งเน้นการหาโซลูชันที่ดีที่สุดให้กับแต่ละองค์กร สามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับแต่ละองค์กรได้
ด้วยข้อกังวลทั้งหมดที่ว่ามานี้ รวมถึงการสำรวจความคิดเห็นจากรายงานฉบับดังกล่าว Powered Risk ถือเป็นโซลูชันที่ เคพีเอ็มจี มองว่า สามารถช่วยจัดการกับความเสี่ยงให้กับองค์กรได้อย่างรอบด้าน ทั้งการดำเนินการทางธุรกิจร่วมกับบุคคลภายนอก (Third Party) รวมถึงการปรับระบบการทำงานภายในองค์กร ที่กลายเป็นโจทย์ใหญ่ในการเปลี่ยนแปลง Powered Risk จะช่วยจัดการความเสี่ยงให้ธุรกิจเป็นไปตามข้อบังคับ-กฎระเบียบ มีการคาดการณ์ความเสี่ยงล่วงหน้า มีข้อมูลเชิงลึกในอุตสาหกรรม และเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อจัดการกับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นกับธุรกิจของคุณโดยเฉพาะ โดยการจัดการปัญหาและความเสี่ยงที่ถูกมัดรวมมาไว้ใน Powered Risk ยังครอบคลุมถึงความเสี่ยงภายในองค์กร ความเสี่ยงในการทำงานร่วมกับบุคคลภายนอก (Third Party) ภัยคุกคามทางไซเบอร์-ไอที ความยืดหยุ่นในการดำเนินงานภายในองค์กร มีการวางแผนการดำเนินงานให้เป็นไปตามนโยบาย-ข้อบังคับ และยังมีการจำลอง Model Risk ขึ้นมา เพื่อให้องค์กรนั้นๆ ได้รับการดูแลที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นด้วย
การทำงานของ Powered Risk มี "ข้อดี" 3 ข้อ โดยสรุปได้ดังนี้
- ความรวดเร็ว การปรับเปลี่ยนการบริหารความเสี่ยงและการกำกับดูแลจะสามารถเสร็จสิ้นได้ภายในเวลาไม่กี่เดือน
- ด้วย "ข้อมูลเชิงลึก" ที่โซลูชันดังกล่าวมอบให้ จะช่วยให้องค์กรตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างทันท่วงที ช่วยบริหารความเสี่ยงให้สอดคล้องกับความต้องการขององค์กรได้
- ความเสี่ยงถูกควบคุมให้อยู่ในระดับที่องค์กรยอมรับได้ ทำให้องค์กรก้าวไปได้เร็วขึ้น และศักยภาพในการทำงานก็สูงตามไปด้วย
Powered Risk จึงถือเป็นโซลูชันที่องค์กรไม่ควรพลาด โดยเป็นบริการที่รวบรวมข้อมูล ประสบการณ์ และกระบวนการชั้นนําบนเทคโนโลยีที่ผ่านการทดสอบเรียบร้อยแล้ว นำมาสู่เครื่องมือที่ทันสมัย ได้แก่
- KPMG Target Operating Model หรือ TOM ซึ่งเป็นรูปแบบในการปฎิรูปองค์กรในทุกระดับ
- KPMG Powered Execution Suite คือ แพลตฟอร์มที่ประกอบไปด้วยเครื่องมือทันสมัยเพื่อช่วยในการปฏิรูปการจัดการความเสี่ยงและการกํากับดูแล
- KPMG Powered Evolution มอบสิทธิในการเข้าถึงข้อมูล และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมากมายเพื่อช่วยในการปรับเปลี่ยนองค์กร
ในสถานการณ์ที่ "ปรับ" และ "เปลี่ยน" ไวเช่นนี้ การบริหารจัดการความเสี่ยงเพื่อประสิทธิผลสูงสุดเป็นสิ่งสำคัญ หากองค์กรเดินเกมได้ไว แม่นยำ รวดเร็ว ก็จะช่วยให้ภาพรวมของการทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการความเสี่ยงและการกำกับดูแลได้ โดย คลิกที่นี่