‘ข่าวร้าย’ ประเทศไทย ปัจจัย ‘เสี่ยง’ รุมกระหน่ำ
วันนี้อุตสาหกรรมรถยนต์ในไทยกำลังมีปัญหาหนักมาก จนต้องยกประเด็นเรื่อง “ความอยู่รอด” ขึ้นมาถกกันในช่วงนี้สำหรับอุตสาหกรรมที่ได้ชื่อว่าเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ....ทั้งหมดทั้งมวล คือ “ข่าวร้าย” ของประเทศไทยในช่วงนี้
การยกขบวนออกมาแถลงสร้างความเชื่อมั่นในตลาดทุนตลาดหุ้น ที่สะท้อนไปถึงภาพรวมของภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วงนี้ อาจทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับคืนมาได้ในระยะสั้นๆ เพราะหากปัญหาโครงสร้าง รากเหง้าของเศรษฐกิจในไทย ยังไม่ถูกแก้อย่างจริงจัง เราคงเห็นภาพการออกมาแถลงสร้างความเชื่อมั่นกันอยู่เรื่อยๆ
ที่ผ่านมาความเชื่อมั่นประเทศโดยเฉพาะความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นตลาดทุน กลายเป็นวาระร้อนของประเทศที่กำลังสะเทือนไปถึงภาพใหญ่เศรษฐกิจไทย
เราเห็นตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมาร่วงแรงแบบมีนัยสำคัญ ขณะที่เมื่อย้อนไปดูข้อมูลลึกๆ 10 ปีที่ผ่านมา พบว่า สัดส่วนการถือครองหุ้นไทยของต่างชาติลดลงถึง 10% หรือคิดเป็นมูลค่าเงินไหลออกจากหุ้นไทยกว่า “1 ล้านล้านบาท” ทำให้สัดส่วนนักลงทุนต่างชาติการถือครองหุ้นไทย ลดลงจาก 37% เหลือ 27% ในปัจจุบัน
ขณะเดียวกัน ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยไปแล้วกว่า “1 แสนล้านบาท”
ก่อนหน้านี้ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนพฤษภาคม 2567 อยู่ที่ระดับ 88.5 ปรับตัวลดลงจาก 90.3 ในเดือนเมษายน 2567
เมื่อดูไส้ใน พบว่า ปรับตัวลดลงทุกองค์ประกอบ ทั้งยอดขายโดยรวม ยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการและผลประกอบการ เหตุผลเพราะกำลังซื้อในประเทศที่เปราะบาง จากเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน รวมถึงปัญหาหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูงและสัดส่วนหนี้เสีย (NPLs) ที่ปรับตัวสูงขึ้น การบริโภคสินค้าก็ชะลอลง ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ยังสูงกระทบต่อต้นทุนการผลิต
หันมามองในเรื่อง “กำลังซื้อ” ยิ่งไปกันใหญ่ ยังคงเปราะบางและชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มฐานล่าง ธุรกิจรายย่อยทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด สะท้อนผ่าน “ยอดขาย” ที่หดตัวลงมากเป็นจุดเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลัง
ลงลึกไปดูพบว่า ภาพรวมธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกทั่วประเทศไม่ค่อยดี กำลังซื้อต่างจังหวัดชะลอตัวหนัก ลูกค้าลดใช้จ่ายสินค้าทุกกลุ่ม 15-30% ร้านค้าขนาดเล็ก หรือร้านโชห่วยทั่วประเทศกว่า 4 แสนร้านค้ารวมถึงร้านค้าส่ง-ค้าปลีกและห้างค้าปลีกต่างจังหวัด กว่า 100 รายได้รับผลกระทบต่อเนื่องเป็นลูกโซ่จนบางรายต้องปิดกิจการ
เราได้ยินข่าวการปิดโรงงาน ย้ายฐานการผลิต หยุดผลิตสินค้าบางอย่าง แทบไม่เว้นแต่ละวัน อุตสาหกรรมรถยนต์ที่เคยเป็นดาวรุ่ง ไทยได้ชื่อว่าเป็น ดีทรอยต์แห่งเอเชีย เพราะเป็นฐานการผลิตรถยนต์มาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ
วันนี้อุตสาหกรรมรถยนต์ในไทยกำลังมีปัญหาหนักมาก จนต้องยกประเด็นเรื่อง “ความอยู่รอด” ขึ้นมาถกกันในช่วงนี้สำหรับอุตสาหกรรมที่ได้ชื่อว่าเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ....ทั้งหมดทั้งมวล คือ “ข่าวร้าย” ของประเทศไทยในช่วงนี้ เรากำลังตกที่นั่งลำบาก (มาก) ขณะที่เพื่อนบ้านของเรากำลังเฉิดฉายและเป็นสนใจของนักลงทุน