‘ADB’ คาดเศรษฐกิจเอเชียปีนี้โต 5.0% ‘ไทย’ โต 2.6% ขณะที่ฟิลิปปินส์ เวียดนามโต 6%
ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ปรับเพิ่มคาดการณ์เติบโตเศรษฐกิจเอเชียในปี 2567 ขึ้นเป็น 5.0% ขณะที่เศรษฐกิจไทย ADB ยังคงปีนี้ไว้ที่ 2.6% และ 3.0% ในปีหน้า
เว็บไซต์นิกเคอิ เอเชียรายงานว่า ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้ “ปรับเพิ่ม” ประมาณการเติบโตของ “เศรษฐกิจประเทศในเอเชีย” ในปีนี้เป็น 5.0% ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนเมษายนที่ 4.9% เพียงเล็กน้อย โดยได้รับแรงหนุนจากการส่งออกสินค้าเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งขึ้นในเกาหลีใต้ และไต้หวัน รวมถึงอุปสงค์ภายในประเทศที่มั่นคงทั่วทั้งภูมิภาค ส่วนการเติบโตสำหรับปีหน้า ธนาคาร ADB ยังคงประมาณการไว้ที่ 4.9% ตามเดิม
รายงานของธนาคารระบุว่า “อุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่งควบคู่ไปกับการส่งออก และภาคการผลิตที่ปรับตัวดีขึ้น ช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจในปีนี้”
นอกจากนี้ รายงานยังได้ระบุถึงความเสี่ยงต่างๆ ตั้งแต่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งของสหรัฐ ไปจนถึงความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงสงครามในยูเครน และตะวันออกกลาง อีกทั้งยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับการแบ่งแยกห่วงโซ่อุปทานทางการค้า และความเป็นไปได้ที่ภาวะซบเซาของตลาดอสังหาริมทรัพย์จีนจะเลวร้ายลง
ทั้งนี้ ธนาคารพัฒนาเอเชียคงประมาณการเติบโตของ “เศรษฐกิจจีน” ไว้ที่ 4.8% สำหรับปีนี้ และ 4.5% สำหรับปี 2568
สำหรับ “ไทย” ธนาคาร ADB ยังคงประมาณการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไว้ตามเดิม เป็น 2.6% ในปีนี้ และ 3.0% ในปี 2568
ขณะที่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฮ่องกง และอินเดีย ในปี 2567 ธนาคารยังคงประมาณการเติบโตไว้ตามเดิมเช่นกัน แต่ธนาคารได้ปรับเพิ่มประมาณการสำหรับเกาหลีใต้เป็น 2.5% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.2% และไต้หวันเป็น 3.5% จากเดิมที่ 3.0% เนื่องจากมองว่าสองประเทศผู้ส่งออกเทคโนโลยีเหล่านี้จะยังคงได้รับประโยชน์จากความต้องการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่พุ่งสูงทั่วโลก
ในบรรดาประเทศสมาชิกอาเซียน ฟิลิปปินส์และเวียดนาม คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากความต้องการเซมิคอนดักเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก เนื่องจากทั้งสองประเทศมีความเชี่ยวชาญด้าน “การบรรจุภัณฑ์วงจรรวม และการประกอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์” โดยเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศมีแนวโน้มเติบโต 6.0% ในปีนี้ ซึ่งเร็วกว่าประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเดียวกัน
ธนาคารพัฒนาเอเชียคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อในเอเชีย จะลดลงเหลือ 2.9% ในปีนี้ ซึ่งปรับลดลงจากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 3.2% ในเดือนเมษายน และต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อ 3.3% ที่บันทึกได้ในปี 2566 แนวโน้มที่ลดลงนี้เกิดจากความล่าช้าของการปรับนโยบายการเงินให้เข้มงวดขึ้น
ถึงแม้จะมีแนวโน้มเงินเฟ้อลดลง แต่บางประเทศในภูมิภาคก็เริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นการบริโภค ตัวอย่าง เช่น ฟิลิปปินส์ มักติดตามการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สำหรับการปรับนโยบายการเงินครั้งต่อไป รายงานของ ADB ชี้ให้เห็นว่า “อัตราดอกเบี้ยในสหรัฐ และประเทศเศรษฐกิจพัฒนาอื่นๆ ยังคงส่งผลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาค”
รายงานคาดการณ์ว่า อัตราการเติบโตของราคาสินค้าหรือเงินเฟ้อในเอเชีย มีแนวโน้มชะลอตัวลงเหลือ 2.9% ในปี 2567 และทรงตัวอยู่ที่ 3.0% ในปี 2568
อ้างอิง: nikkei, reuters
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์