กลยุทธ์การลงทุน (16 ส.ค.62)

กำไรไตรมาส 2/2562 ของหุ้นใน KGI universe ลดลง 19% YoY และ 20% QoQ และต่ำกว่าทีคาดการณ์ประมาณ 3%

ไตรมาส 2/2562 เป็นอีกหนึ่งไตรมาสที่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทยออกมาอ่อนแอ โดยกำไรสุทธิรวมเฉพาะของหุ้นที่ KGI ทำการวิเคราะห์... ลดลง 19% YoY และ 20% QoQ และต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ 2.8% แต่หากไม่รวมกำไรพิเศษก้อนใหญ่ๆ ของบางบริษัทที่มีการบันทึกเข้ามาเช่น CK*, BEM*,TRUE* พบว่าผลประกอบการจะต่ำกว่าคาดไป 5.2%... ทั้งนี้ 28% ของหุ้นที่เราวิเคราะห์มีผลประกอบการดีเกินคาด ในขณะที่ 30% เป็นไปตามคาด และจำนวน 42% ออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้ ในขณะเดียวกันกำไรสุทธิรวมในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 ลดลง 14.0% YoY ดังนั้น การที่กำไร บจ. ปีนี้จะโตได้ 1.5% ตามประมาณการปัจจุบันของเราจึงค่อนข้างท้าทาย และเรามองว่ามีความเป็นไปได่ที่จะมีการปรับลดประมาณการกำไร บจ. อีกระดับหนึ่งในระยะถัดไป

กลุ่มสื่อสารรายงานงบฯ โดดเด่นที่สุด ขณะที่กลุ่มปิ โตรเคมี และกลุ่มท่องเที่ยวดูอ่อนแอชัดเจน

ผลประกอบการของหุ้นกลุ่มสื่อสารออกมาดีที่สุดในแง่ % ของหุ้นที่กำไรดีเกินคาด โดย 80% ของหุ้นในกลุ่มที่เราดูแลอยู่มีผลประกอบการดีเกินคาด โดยมีแค่ 20% เท่านั้นที่ผลประกอบการน่าผิดหวัง ส่วนกลุ่มกลุ่มสาธารณูปโภคมี 56% ที่ผลประกอบการดีเกินคาด... ในประเด็นนี้ถือว่าสอดคล้องกับที่เราได้ปรับเพิ่มคำแนะนำหุ้นกลุ่มสื่อสารเป็น Overweight ไปก่อนหน้านี้ และยังได้ให้มุมมองบวกของเราต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า สำหรับกลุ่มที่ผลประกอบการอ่อนแอนั้น ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงฉุดผลประกอบการของกลุ่มปิโตรเคมี และโรงแรม โดยผลประกอบการของทุกบริษัทในสองกลุ่มนี้ต่ำกว่าที่คาดทั้งหมด

SET Index ที่ระดับปัจจุบันน่าเข้าลงทุน... โดยมีสมมติฐานว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่เกิดภาวะถดถอย

ถึงแม้ว่าผลประกอบการไตรมาส 2/2562 ไม่ค่อยดีและอาจจะทำให้ต้องมีการปรับลดประมาณการลงอีกแต่การที่ดัชนี SET ปรับลดลงมาก็น่าจะสะท้อนประเด็นเรื่องผลประกอบการ และประเด็นที่สำคัญอื่น ๆ อย่างเช่นสงครามการค้า และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกไปมากแล้ว หากใช้สมมติฐานว่าสหรัฐจะไม่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย พบว่า earnings yield gap ในปัจจุบันที่สูงถึงเกือบ 5.0% ก็ถือว่าค่อนข้างน่าสนใจ โดยข้อมูล 10 ปีที่ผ่านมาชี้ว่าในช่วงที่สหรัฐฯ ไม่มีปัญหาเศรษฐกิจถดถอย... earnings yield gap ของหุ้นไทยเคยสูงสุดที่ 5.5% ซึ่งไม่ห่างจากระดับปัจจุบันมากนัก อย่างไรก็ตามกรณีผิดทางและสหรัฐฯเข้าสู่เศรษฐกิจถดถอย ดัชนี SET อาจจะมี earnings yield gap สูงถึง 6.0% ได้ (หุ้นอาจลงต่อแรง) ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยฯ ปรับลดเป้าดัชนี SET ปี 2562 เล็กน้อยเหลือ 1,680 จุด (อิง PER ที่ 16.5x) เพื่อสะท้อน EPS ที่ลดลงเหลือ 102.0 และเรามองว่า EPS ก็น่าจะยังลดลงได้อีกในอีกสองสามสัปดาห์ข้างหน้า

จะซื้อหุ้นอะไรดี? หุ้นบิ๊กแคปที่ถูกเทขายหนัก และหุ้นที่จะได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

เรามองว่าธีมการลงทุนที่นักลงทุนควรให้ความสำคัญได้แก่ i) หุ้นขนาดใหญ่ที่ถูกเทขายหนักในช่วงที่ผ่านมา เช่นกลุ่มพลังงาน, หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และกลุ่มที่จะเข้าสู่ช่วง high season ในครึ่งหลังของปี เราแนะนำหุ้น TOP*, PTTEP*, AOT* และ BDMS* ในขณะที่มองว่าราคาหุ้น ADVANC* และ INTUCH* ร่วงแรงเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นผลจากการที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทำรายการขายหุ้นให้นักลงทุนน่าเปิด upside กับหุ้นทั้งสองมากขึ้น และ ii) หุ้นที่น่าจะได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ เช่น CPALL* เป็นต้น