คิกออฟกองทุน 'อีอีซี' จัดงบช่วยเหลือเยียวยา สนับสนุนการศึกษา
สกพอ.เร่งดันกองทุนอีอีซี เล็งตั้ง "คณิศ" คุมบอร์ดบริหาร หนุนสำรวจผลกระทบจากการพัฒนา พร้อมจัดงบช่วยเหลือเยียวยา สนับสนุนการศึกษาในเขตอีอีซีและพื้นที่เชื่อมต่อ จัดงบเพิ่มประสิทธิภาพการผลักดันนโยบาย
แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ระบุว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา รับทราบผลการประชุม กพอ.เรื่อง ร่างระเบียบ กพอ.ว่าด้วยกองทุนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. .... โดยกองทุนดังกล่าวจัดตั้งขึ้นมาเพื่อดูแลผลกระทบและเป็นกลไกในการผลักดันนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งเป็นการวางกลไกที่ดูบทเรียนจากอดีตและเชื่อว่าแนวทางนี้จะช่วยลดผลกระทบจากพัฒนาด้วย
ทั้งนี้ หลังจากนี้ สกพอ.จะดำเนินการแหต่งตั้งคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาอีอีซี ซึ่งจะมีนายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ สกพอ.เป็นผู้ทำหน้าที่ และคาดว่าจะดำเนินการแต่งตั้งเสร็จภายใน 60 วัน โดยคณะกรรมการบริหารกองทุนจะมากำหนดระเบียบในการเก็บเงินเข้ากองทุนพัฒนาอีอีซี เช่น หลักเกณฑ์การเก็บเงินจากบริษัทที่ลงทุนในอีอีซี ซึ่งขณะนี้กองทุนพัฒนาอีอีซีมีงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรจากรัฐบาล 100 ล้านบาท
เยียวยาประชาชน-ชุมชน
“กองทุนนี้ตั้งขึ้นมาเพื่อดูแลผลกระทบจากการพัฒนาอีอีซี ซึ่งครอบคลุมการเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนและชุมชน รวมถึงการให้ทุนการศึกษากับคนในพื้นที่ เพื่อให้ได้ประโยชน์จากการพัฒนา โดยทำหน้าที่คล้ายกองทุนโรงไฟฟ้าที่จะดูแลประชาชนและชุมชนรอบโรงไฟฟ้า แต่กองทุนพัฒนาอีอีซีมีหน้าที่ที่กว้างกว่ากองทุนโรงไฟฟ้า เพราะทำหน้าที่รวมถึงการสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่อีอีซีด้วย”
นอกจากนี้ ร่างระเบียบดังกล่าว สกพอ.ได้แก้ไขปรับปรุงการออกร่างระเบียบดังกล่าวให้เป็นไปตามข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา รวมทั้ง ครม.กำหนดให้ สกพอ.รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ไปพิจารณาดำเนินด้วย
สำหรับร่างระเบียบดังกล่าวมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีกองทุนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และประกอบด้วย 3 หมวด ได้แก่ 1.การบริหารกองทุน 2.การบริหารจัดการเงินและทรัพย์สิน 3.ระบบบัญชี การประเมินผลและการตรวจสอบของกองทุน
จัดงบสำรวจผลกระทบ
นอกจากนี้ ให้มีคณะกรรมการบริหารกองทุนประกอบด้วยเลขาธิการ สกพอ.หรือผู้ที่เลขาธิการ สกพอ.มอบหมายให้เป็นประธานกรรมการ รวมทั้งมีผู้แทนสำนักงบประมาณ 1 คน ผู้แทนกระทรวงการคลัง 1 คน ผู้แทน สกพอ. 1 คน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่เลขาธิการ สกพอ.แต่งตั้งโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลังไม่เกิน 3 คน และผู้บริหารกองทุนเป็นกรรมการและเลขานุการ
รวมทั้งกองทุนดังกล่าวมีหน้าที่และอำนาจกำหนดนโยบาย กำกับดูแลการบริหารจัดการ และติดตามการดำเนินงาน ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุน พิจารณาอนุมัติแผนการดำเนินงานประจำปี และอนุมัติโครงการภายใต้วัตถุประสงค์ของกองทุน ติดตามการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และแผนการดำเนินงานของกองทุน รวมทั้งเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาให้ผู้ได้รับการจัดสรรเงินกองทุน และสนับสนุนให้สำรวจผลกระทบจากการพัฒนาในอีอีซีเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาโครงการ
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารกองทุนมีอำนาจและหน้าที่ตามที่กำหนดและให้แต่งตั้งผู้บริหารกองทุน เพื่อทำหน้าที่บริหารงานกองทุนให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ และให้ สกพอ.ทำโครงสร้างการบริหารกองทุนเพื่อรองรับการดำเนินงานด้านต่างๆ รวมทั้งการกำหนดกรอบอัตรากำลัง เงินเดือน ค่าจ้าง ค่าตอบแทน สิทธิประโยชน์ หรือสวัสดิการต่างๆ โดยให้มีความเหมาะสมในการดำเนินงานและฐานะการเงินของกองทุน เสนอคณะกรรมการบริหารพิจารณาอนุมัติโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง
เล็งเก็บเงินบำรุงจากเอกชน
ส่วนเงินและทรัพย์สินของกองทุนประกอบด้วย 6 ส่วน 1.เงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้ 2.เงินบำรุงตามมาตรา 47 แห่ง พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โดย กพอ.จะกําหนดให้ผู้ประกอบอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษและ กิจการที่เกี่ยวเนื่องในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษต้องส่งเงินบํารุงกองทุนตามอัตรา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่สํานักงานประกาศกําหนดโดยความเห็นชอบของ กพอ.ก็ได้
3.เงินสมทบจากรายได้ของ สกพอ. 4.เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้ 5.เงินหรือทรัพย์สินอื่นที่ตกเป็นของกองทุน 6.ดอกผลหรือผลประโยชน์ใดๆ ที่เกิดจากเงินหรือทรัพย์สินของกองทุน โดยเงินและทรัพย์สินที่เป็นของกองทุนไม่ต้องนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐและกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง
นอกจากนี้ เงินกองทุนให้ใช้จ่ายเพื่อกิจการตามวัตถุประสงค์ของกองทุน 4 ข้อ ได้แก่ 1.เพื่อการพัฒนาพื้นที่หรือชุมชน ช่วยเหลือหรือเยียวยาประชาชนและชุมชนบรรดาที่อาจได้รับผลกระทบจากการพัฒนาอีอีซี
2.สนับสนุนและส่งเสริมการศึกษา และให้ทุนการศึกษาแก่ประชาชนที่อยู่อาศัยในอีอีซีหรือที่อยู่ใกล้เคียงและได้รับผลกระทบจากการพัฒนาอีอีซี 3.ค่าใช้จ่ายอื่นที่จะส่งเสริมให้เกิดประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการพัฒนาอีอีซีตามที่ กพอ.กำหนด 4.ค่าใช้จ่ายในการบริหารกองทุน
วางกลไกตรวจสอบใช้เงิน
ทั้งนี้ ให้ สกพอ.โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารทำรายงานทางการเงิน แสดงฐานะทางการเงิน และผลการดำเนินงานของกองทุนได้อย่างถูกต้องตามหลักการบัญชี รวมทั้งจัดทำและส่งข้อมูลทางการเงิน และข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กรมบัญชีกลางกำหนด
รวมทั้ง ให้ สกพอ.ทำรายงานการเงินของกองทุนเสนอคณะกรรมการบริหารพิจารณาให้ความเห็นชอบภายใน 60 วัน นับแต่วันสิ้นปีบัญชีของทุกปี และส่งให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินหรือบุคคลที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินให้ความเห็นชอบเป็นผู้สอบบัญชีเพื่อทำการตรวจสอบและรับรอง และเมื่อรายงานทางการเงินได้รับการตรวจสอบและรับรองแล้วให้ส่งกระทรวงการคลังภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ที่ได้รับรายงานจากผู้สอบบัญชี
ให้ สกพอ. โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหาร จัดให้มีระบบการตรวจสอบภายในเพื่อตรวจสอบการดำเนินงานของกองทุน ตามมาตรฐานและหลักเกณฑ์ปฏิบัติการตรวจสอบภายในสำหรับหน่วยงานของรัฐ หรือมาตรฐานสากลการปฏิบัติงานวิชาชีพการตรวจสอบภายใน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-รัฐบาลลุย 'อีอีซี' เต็มสูบ ชูฮับเศรษฐกิจเอเชีย
-กนอ.เผยอีอีซีแรงไม่หยุด เล็งผุดนิคมใหม่18แห่ง
-อีอีซีดัน 5 ทำเลระยองบูม
-อีอีซี โชว์ผลงาน 2 ปีดันเศรษฐกิจไทยต่อเนื่อง