นายกฯ ชง 'อาเซียน' มีบทบาทช่วย 'เมียนมา' แก้ปัญหามนุษยธรรมในรัฐยะไข่
"นายกฯ" ร่วมถก ผู้นำอาเซียน ร่วมขับเคลื่อนภูมิภาคให้เข้มแข็ง ชงข้อเสนอ "อาเซียน" มีบทบาทช่วย "เมียนมา" แก้ปัญหามนุษยธรรม ในรัฐยะไข่ ก่อนเป็นสักขีพยาน ลง MOU ร่วมเป็นเจ้าภาพบอลโลก 2034
เมื่อวันที่ 2 พ.ย.62 เวลา 17.00 น. ที่ห้อง Sapphire 205 – 206 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนได้เข้าร่วม การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 แบบเต็มคณะ (Plenary)
ภายหลังเสร็จสิ้น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญว่า การประชุมแบบเต็มคณะจัดขึ้นเพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือกับภายนอกของอาเซียน และการกำหนดทิศทางในอนาคต แลกเปลี่ยนทัศนะต่อประเด็นต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในภูมิภาคและระหว่างประเทศ รวมถึงเพื่อขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ตามแนวคิดหลักของการเป็นประธาน อาเซียนของไทย “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” (Advancing Partnership for Sustainability) โดยมีประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ เลขาธิการอาเซียน เข้าร่วมประชุม
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวต้อนรับ และยินดีที่ได้พบทุกท่านอีกครั้ง ย้ำถึงแนวคิดหลักในการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” ประเทศไทยประสงค์ใช้โอกาสนี้แลกเปลี่ยนมุมมอง วิสัยทัศน์ เพื่อร่วมกันกำหนดเป้าหมายและทิศทางอาเซียน โดยนายกรัฐมนตรีได้นำผลการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 34 ไปหารือกับผู้นำ G20 ที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น และได้นำประเด็นความร่วมมือส่งเสริมความยั่งยืนในมิติต่างๆ ไปหารือต่อในช่วงการประชุมสมัชชาสหประชาชาติที่นครนิวยอร์ก ทั้งหมดนี้เพื่อสนับสนุนประชาคมอาเซียนที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และมองไปสู่อนาคต
นายกรัฐมนตรีเชื่อว่า ความเป็นหุ้นส่วนและการเป็นมิตรกับประเทศต่างๆ นอกภูมิภาคจะช่วยประชาคมอาเซียนให้ขับเคลื่อนแนวคิดหลักของอาเซียนเกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน
ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้แลกเปลี่ยนมุมมองในสามประเด็นที่อาเซียนควรร่วมกันผลักดัน
1.การส่งเสริมความมั่นคงที่ยังยืน เพื่อรักษาและเพิ่มพูนสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค อาเซียนควรเน้นการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจในระดับยุทธศาสตร์ ควรขยายผลจากสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (TAC) ให้แพร่หลายออกไปในวงกว้าง
2. การเสริมสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ความตกลง RCEP คือหัวใจสำคัญจะช่วยรองรับผลกระทบจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างคู่ค้าที่สำคัญของอาเซียน เพิ่มประโยชน์ด้านการค้าและการลงทุนของอาเซียนและภูมิภาค
3. การส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นประเด็นสำคัญทางยุทธศาสตร์ของอาเซียนและเป็นพื้นฐานสำคัญของการเติบโตในอนาคต อาเซียนมีผลการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมในหลายเรื่องที่เกี่ยวข้อง อาทิ การจัดตั้งเครือข่ายอาเซียนเพื่อแก้ไขปัญหาการประมง IUU การแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาทุนมนุษย์ครอบคลุมทุกช่วงวัย
ทั้งนี้ ประชาคมอาเซียนที่ยั่งยืนต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายอาเซียนต้องกระชับความร่วมมือกับหุ้นส่วนนอกภูมิภาคอย่างมียุทธศาสตร์เพื่อให้ความร่วมมือเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ และสมดุลเพื่อประโยชน์สูงสุด อาเซียนจึงควรเตรียมความพร้อมให้ดีสำหรับการประชุมกับประเทศคู่เจรจาที่เกี่ยวข้องที่กำลังจะเกิดขึ้น และการประชุมสุดยอดอาเซียนสาธารณรัฐเกาหลีสมัยพิเศษครั้งที่สามในปลายเดือนนี้
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
แจกเงินหมื่นเฟส 2 อายุ 60 ปีขึ้นไป ได้ช่วงตรุษจีน 68 พร้อมอัปเดต เฟส 3 ได้ตอนไหน
22 พ.ย. 2567 | 22:30ราชกิจจาฯ กำหนดอัตราเงินสะสมและเงินสมทบกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง พ.ศ. 2567
22 พ.ย. 2567 | 21:05สภาการสื่อมวลชน พร้อมภาคีสมาชิกสื่อ 11 ฉบับ KICK OFF โครงการสร้างเสริมทักษะเท่าทันสื่อเพื่อเด็ก
22 พ.ย. 2567 | 20:49
ในตอนท้ายนายกรัฐมนตรีเสนอความเห็นว่าอาเซียนควรมีบทบาทให้ความช่วยเหลือเมียนมาในการแก้ปัญหาด้านมนุษยธรรมในรัฐยะไข่ผ่านเลขาธิการอาเซียนร่วมมือกับมิตรประเทศที่เมียนมามีความสะดวกใจเพื่อส่งเสริมความร่วมมือในประเด็นเฉพาะ ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณการสนับสนุนการเป็นประธานอาเซียนของไทยในปีนี้ส่งผลให้อาเซียนได้ต่อยอด การดำเนินการในด้านต่างๆ เพื่อผลประโยชน์ต่อประเทศสมาชิก และประขาชนในอาเซียน
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับรองให้จัดการประชุมสุดยอดอาเซียนออสเตรเลียเป็นประจำทุกปีเริ่มตั้งแต่ปี 2563 ที่เวียดนาม และจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนนิวซีแลนด์ในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 36 ที่เมืองดานังในปี 2563 ตลอดจนภายหลังการประชุมผู้นำได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนาม MOU ระหว่างประธานฟีฟ่ากับเลขาธิการอาเซียนเพื่อส่งเสริมฟุตบอลในอาเซียน และสนับสนุนความปรารถนาร่วมกันของอาเซียนที่จะเสนอตัวร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2034 โดยมีผู้นาอาเซียนเป็นสักขีพยาน