โมเมนตัมบวก

โมเมนตัมบวก

Trading Buy (จุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

โมเมนตัมบวก จากจำนวนผู้ติดเชื้อในไทยที่ลดลงต่อเนื่อง การออกมาตรการเยียวยา-กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องของทางการและสัญญาณการฟื้นตัวของตลาดหุ้นโลก รวมถึงตลาดหุ้นไทย จะส่งผลบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ แนวต้าน 1250 / 1260 จุด แนวรับ 1220 / 1213 จุด แรงซื้อคืนเริ่มหันมาเน้นกลุ่มอิงท่องเที่ยว เช่น ขนส่ง ค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ จากคาดว่ารัฐบาลอาจผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดในอนาคต และหุ้นร่วงแรง กลุ่มไฟแนนซ์ นิคมฯ รับเหมาฯ อสังหาฯ ทั้งนี้ จุดเปลี่ยนที่ต้องจับตา คือ กองทุนในประเทศ (วานนี้ซื้อสุทธิ2.03 พันล้านบาท) ที่อาจหันกลับมาเป็นผู้ขายสุทธิหลังซื้อกว่า 4 สัปดาห์ เพื่อลดความเสี่ยงของตัวเลขเศรษฐกิจจีนและผลกาไรบจ. ที่เริ่มทยอยประกาศสัปดาห์นี้

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้ ได้แก่

1) บจ.สหรัฐฯ ทยอยประกาศงบ 1Q20E นำโดย JP Morgan Chase, Wells Fargo, J&J โดย Factset คาดผลกำไรบจ. ที่คำนวณในดัชนี S&P500 เติบโต -10% YoY ใน 1Q20E

2) ดุลการค้าจีนเดือน มี.ค. คาดฟื้นตัว +USD19.7bn (Vs เดือน มค - ก.พ. เฉลี่ย -USD7.1bn) และอาจเป็นปัจจัยสนับสนุนหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์และกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ระยะสั้น

3) IMF ประชุม World Bank เริ่มต้นวันนี้จนถึงพฤหัสฯ คาดออกรายงานปรับลดเป้าหมายเติบโตเศรษฐกิจโลกปีนี้รอบใหม่ (เมื่อวันที่ 9 ม.ค. IMF คาดโลกปี 2020E เติบโต 3.3% Vs ปี 2019 +2.9% ส่วน World Bank คาดปี 2020E โต 2.5% ปี 2019 +2.4%)

4) ผู้ผลิตน้ำมันในกลุ่มG20พิจารณาลดกำลังการผลิต นำโดย นอรเวย์ เท๊กซัส วันนี้

5) ทางเทคนิคเป็นสัญญาณขาขึ้นเป้าหมาย 1270/86จุด แต่ RSI, Stochastic เริ่มเข้าเขต Overbought อาจส่งผลให้ตลาดจะมีการปรับตัวลดลงในเร็วๆนี้

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: USA-Earnings-JP Morgan, Wells Fargo, Texas Railroad Commission ประชุมเรื่องลดการผลิตน้ำมันดิบครั้งแรกรอบ 50 ปี, IMF/World Bank -Meeting ถึงวันพฤหัสฯ, China-ดุลการค้าเดือน มี.ค.

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วานนี้

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวก: ดัชนีตลาดฯ ปิดที่ระดับใกล้สูงสุดของวันที่ 1236.78 จุด +8.75 จุด หรือ +0.7% วอลุ่ม 4.94 หมื่นล้านบาท ส่วนกลุ่มอุตฯ ที่ปรับขึ้นสูงสุด คือ ไฟแนนซ์ +5.54% (นำโดย MTC SAWAD BFIT THANI KTC JMT) มีเดีย +4.1% (VGI) อาหาร +1.77% (MINT) อสังหาฯ +1.46% (WHA AMATA) กลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน (BTS BEM) อื่นๆ (HMPRO COM7 PTG)

- ตลาดหุ้นสหรัฐฯร่วง: การวิตกต่อรายงานผลกำไรบจ. จะแย่ลง เป็นปัจจัยถ่วงตลาดหุ้นสหรัฐฯ DJIA -1.39% S&P500 -1.01% Nasdaq +0.48% ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิด ทำการ เนื่องในเทศกาลอีสเตอร์

-/+ น้ำมันดิบย่อ แต่ทองคำบวก: WTI - USD0.35 -1.54% ปืดที่ USD22.41/บาร์เรล รับข่าวกลุ่มโอเปคลดการผลิตแบบขั้นบันได โดยเริ่มลด 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน พ.ค. – มิ.ย. ส่วนทองคำ +USD8.60 ปิด USD1752.80/บาร์เรล จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

ประเด็นสำคัญ

+/- COVID-19 Update ณ วันที่ 13 เม.ย.: พบผู้ติดเชื้อทั่วโลกกว่า 1.91 ล้านราย เสียชีวิตกว่า 1.18 แสนราย โดยสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 5.77 แสนราย เสียชีวิต 2.32 หมื่นราย ไทย-รายงานผู้ติดเชื้อวันจันทร์มีจำนวนเพิ่มขึ้นต่ำสุดรอบเดือนที่ 28 ราย เป็นสะสม 2,579 รายและเสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย เป็น 40 ราย ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลอาจผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดและช่วยหนุนแรงซื้อคืนหุ้นกลุ่มค้าปลีก ห้างสรรพสินค้าฯลฯ ฟิลปปินส์-ยอดผู้ติดเชื้อสะสมวานนี้พุ่งขึ้น 284 ราย เป็นสะสม 4932 ราย สูงสุดในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แซงหน้ามาเลเซียที่มี 4,817 ราย

+/- ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: China-รายงานดุลการค้าเดือน มี.ค. Consensus คาดเกินดุล +USD19.7bn ส่งออก -13.9% YoY นาเข้า -9.5% YoY (Vs เดือน ม.ค. - ก.พ. เฉลี่ย -USD7.1bn ส่งออก -17.2% YoY นำเข้า -4% YoY) แต่ Capital Economics คาดเกินดุลเพียง +USD5bn ส่งออก -20% YoY นำเข้า -10% YoY

- 1Q20E Earnings Results: USA-เริ่มทยอยประกาศงบวันนี้ นำโดยกลุ่มการเงิน JP Morgan Chase คาด -15.1% QoQ, Wells Farge คาด -3.8% QoQ กลุ่มพาณิชย์ J&J คาด +13.2% QoQ

- Dividend Impact: การขึ้นเครื่องหมาย XD วันนี้มีผลต่อตลาด -0.19 จุด ส่วนพรุ่งนี้มีผล -0.60 จุด นำโดย AWC BANPU CPF ฯลฯ

+ ไทย: การประชุมหารือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนวานนี้ พบว่า บจ. อยากให้รัฐเยียวยารักษาบุคลากรไว้โดยไม่ต้องเลิกจ้างและเสนอมาตรการรับมือกับการปลดล็อกประเทศ โดยควรเปิดอุตฯ ที่มีความเสี่ยงน้อยก่อน เช่น ธุรกิจอิงปัจจัย 4 อาทิ ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ร้านอาหาร ฯลฯ ส่วนธุรกิจที่ควรเปิดช้าสุด คือ สถานบันเทิง ผับ ฯลฯ ส่วนเรื่องพ.ร.ก. ธปท. สนับสนุนสภาพคล่องและเงินกู้ Soft Loan ควรนำมาใช้ได้จริง โดยจะมีการหารือกันทุกสัปดาห์

+ G-20: นอรเวย์-ผู้ผลิตน้ำมันใหญ่สุดในยุโรปตต. เตรียมหารือลดกำลังการผลิต ณ เดือน ก.พ. มีกำลังการผลิต 1.75 ล้านบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 26% YoY Texas Railroad Commission-ประชุมเรื่องลดการผลิตน้ำมันดิบครั้งแรกรอบ 50 ปี ทั้งนี้ จะไม่ผิดกฎหมาย anit-trust law ถ้าเป็นคำสั่งของรัฐบาลกลางที่กำหนดระดับการผลิตให้ผู้ผลิต และผู้ผลิตต้องทำตาม โดยปี 2018 รัฐเท็กซัสผลิตน้ำมันประมาณ 10% ของการผลิตรวมของสหรัฐฯ หรือ 4.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน และมีปริมาณน้ำมันสำรองกว่า 15,940 ล้านบาร์เรล หรือ 45% ของปริมาณสำรองของประเทศ

แนะนำ Trading Buy (จุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำ รายสัปดาห์: CPF INTUCH TASCO

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: PTTEP PTT CPF KCE BAM AMATA WHA

Derivatives: แนะเปิด Long S50M20 เมื่อทะลุ 830 จุด หรือ Short เมื่อหลุด 820 จุด (หลัง 10:30น.) (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)