ทอท.-กฝผ.เตรียมโหวตหนุนแผนฟื้นฟู 'การบินไทย' 17 ส.ค.นี้

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ทอท.ในฐานะเจ้าหนี้ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ตั้งคณะทำงาน 3 คณะ เพื่อศึกษาผลกระทบจากกรณีที่การบินไทย เข้าฟื้นฟูกิจการตามกระบวนการศาลล้มละลาย โดยขณะนี้ ทอท.ได้ข้อสรุปแล้วว่าจะไม่คัดค้านแผนฟื้นฟูกิจการของการบินไทยอย่างแน่นอน พร้อมจะรอการเปิดเผยแผนฟื้นฟูฉบับสมบูรณ์ภายหลังศาลนัดไต่สวนในวันที่ 17 ส.ค.นี้

สำหรับคณะทำงานของ ทอท.มีการแบ่งศึกษาออกเป็น 3 เรื่อง คือ 1.ศึกษาแผนธุรกิจ เส้นทางบิน โดยปัจจุบันยังไม่ทราบในรายละเอียด จึงยังไม่หารือ โดยคงต้องรอให้การบินไทยชี้แจงแผนฟื้นฟูในวันที่ 17 ส.ค.นี้ก่อน หลังจากนั้นอาจจะได้เห็นข้อมูลเรื่องเส้นทางบินแบบละเอียด ซึ่งภาพรวมของแผนฟื้นฟูการบินไทย คาดว่าจะชัดเจนในเดือน ก.ย. - พ.ย.นี้

2.ศึกษาเรื่องหนี้สิน ซึ่งขณะนี้ทราบข้อมูลแล้วว่า มีแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ หนี้สินหมุนเวียน มีเฉลี่ยประมาณ 700 – 800 ล้านบาท และหนี้สินจากการยุติข้อพิพาททางแพ่ง เรื่องของสัญญาเช่าที่ดินอาคารฝ่ายช่าง ในท่าอากาศยานดอนเมือง มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท โดยจากการประเมินในเบื้องต้น จะพบว่าหนี้สินหมุนเวียนที่การบินไทยมีต่อ ทอท.นั้น เป็นมูลหนี้ที่ไม่สูงมาก ดังนั้น ทอท.จึงไม่มีความกังวล ส่วนหนี้สินจากข้อพิพาทก็คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายหลังการบินไทยเข้าฟื้นฟูกิจการ

3.ศึกษาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ภายในท่าอากาศยาน เนื่องจากปัจจุบันการบินไทยมีธุรกิจให้บริการภายในท่าอากาศยาน 4 กลุ่ม คือ ครัวการบิน บริการภาคพื้น ศูนย์ซ่อมอากาศยาน และขนส่งสินค้า (คาร์โก้) ซึ่ง ทอท.กังวลว่าหากแผนฟื้นฟูกิจการของการบินไทย เป็นผลกระทบต่อการบริการธุรกิจต่างๆ ภายในท่าอากาศยานอย่างมีนัย ดังนั้นจึงมีเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.เพื่อวางแผนแก้ไข

อย่างไรก็ดี จากการศึกษาแผนแก้ไขธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ทอท.อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าไปร่วมลงทุนในธุรกิจดังกล่าว เพื่อให้การบริการเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย ทอท.ได้จัดลำดับธุรกิจที่ต้องได้รับการแก้ไขมี 3 ธุรกิจ ได้แก่ บริการภาคพื้น ศูนย์ซ่อมอากาศยาน และคาร์โก้ ส่วนธุรกิจครัวการบินนั้น มีแนวทางบริหารจัดการ ผ่านการนำอาหารจากพื้นที่ภายนอกเข้ามาให้บริการได้

นายนิตินัย กล่าวต่อว่า ทอท.ได้หารือกับการบินไทย ถึงความพร้อมเข้าไปร่วมลงทุนในธุรกิจที่ต้องได้รับการแก้ไข เพื่อไม่ให้กระทบต่อการบริการภายในท่าอากาศยาน ซึ่งขณะนี้ ทอท.ได้วางแผนดำเนินธุรกิจในเบื้องต้นไว้แล้ว พร้อมให้บริการในทันที โดยภายหลังการบินไทยเข้าฟื้นฟูกิจการแล้วเสร็จ ต้องการนำธุรกิจเกี่ยวเนื่องดังกล่าวกลับไปบริหารจัดการ ทอท.ก็มีความพร้อมในการโอนธุรกิจคืน

นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า จากการรับฟังการชี้แจ้ง ข้อมูลในเบื้องต้นจากกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ กฟผ.เกี่ยวกับกรณีแผนฟื้นฟูกิจการของการบินไทย ที่จะยื่นต่อศาลฯในวันที่ 17 ส.ค.นี้ ซึ่ง สหกรณ์ออมทรัพย์ กฟผ. ในฐานะเจ้าหนี้รายหนึ่งเห็นว่าแผนฟื้นฟูกิจการนั้น เบื้องต้น มีแนวโน้มเป็นไปในทางที่ดี

ก่อนหน้านี้ ด้มีการชี้แจงต่อสมาชิกสหกรณ์ ซึ่งหากเกิดกรณีเลวร้ายสุด การบินไทยเข้าสู่กระบวนการล้มละลาย และกฟผ. ไม่สามารถได้รับเงินจากการลงทุนหุ้นกู้คืนเต็มจำนวน 100% จะมีผลกระทบต่อการจ่ายเงินปันผลสหกรณ์ กฟผ.

“เท่าที่ทราบ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แนวโน้มตอนนี้ยังเป็นไปทางบวกมากกว่า ก็ต้องช่วยกันให้การบินไทยฟื้นโดยเร็ว”