กองทัพ KOL โดนใจออนไลน์ “โซดาพริ้นติ้ง”สลายพิษโควิด
ตำรารบที่ผ่าทางตันจากความคิดเชื่อมโยงคน 'ไอซ์-ธีรศานต์' ผู้สร้างตำนานเจ๊กเม้งแก้โจทย์ธุรกิจใหม่ โซดาพริ้นติ้ง ผ่านกองทัพ KOL กว่า 5,000 แอคเคาท์ 300 ล้านผู้ติดตาม ล้างพิษโควิด ปั้นธุรกิจแฟชั่นให้KOL เปิดเกมรบใหม่เป็นหลังบ้านให้ผู้สร้างแบรนด์จากตัวตน
ย้อนกลับไปกว่า 10 ปี ในยุคที่โซเชียลมิเดียยังไม่กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คน สื่อออนไลน์ปลุกคลื่นแห่งกระแสเข้าถึงวัยรุ่นยุคแรกๆ คือ อีเมล์, MSN, BB pin(blackberry) จนขยับสู่ ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ค
"ไอซ์-ดร.ธีรศานต์ สหัสสพาศน์"ผู้แจ้งเกิดให้ธุรกิจร้านอาหารให้กับครอบครัว โดยใช้ออนไลน์มาร์เก็ตผลักดันให้ “เจ๊กเม้ง” หรือ JM Cuisine จากก๋วยเตี๋ยวเนื้อต้นตำรับเพชรบุรีที่เริ่มต้นร้านเล็กๆ รับคน 25-30ที่นั่ง ด้วยสโลแกน “หน้าไม่งอรอไม่นาน”เชื้อเชิญให้คนมาเที่ยวเมืองเพชรบุรีต้องแวะจนร้านแตก เนืองแน่นทั้งนักท่องเที่ยวขาจร และกรุ๊ปทัวร์ จนต้องขยายโต๊ะและขยายร้าน 250ที่นั่ง และมีสาขาสองอีก 1,000 ที่นั่ง
จากปลุกปั้นธุรกิจร้านอาหารให้กับครอบครัวและส่งตัวเองให้เรียนจบปริญญาตรี ต่อยอดมาสู่ธุรกิจใหม่ เพื่อทำเงินส่งตัวเองเรียนต่อจนจบปริญญาโทและเอก
ธุรกิจใหม่เจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ “วัยรุ่น วัยเรียนและเริ่มต้นทำงาน” เจเนเรชั่นกำลังเติบโต หากจับตลาดนี้ได้ก็จะอยู่กับเขาไปตลอดช่วงชีวิต จึงปั้น “โซดาพริ้นติ้ง (SodA Printing)” ธุรกิจรับพิมพ์ภาพลงบนผ้า และกรอบแคนวาส ของขวัญให้กับเพื่อน คนรัก แฟน หรือครอบครัว
“ของขวัญพิมพ์ภาพคนคิดจากเพนพอยท์ของขวัญที่ให้เพื่อนวันรับปริญญามีทั้งดอกไม้ ตุ๊กตา ที่ไม่รู้ว่าจะถูกใจหรือไม่ และเมื่อรับไปแล้วไม่นานก็ทิ้งกลายเป็นขยะ แต่หากเป็นรูป ผู้ได้รับเป็นของขวัญทุกช่วงวัยที่เขาสามารถเก็บไว้ได้”
จากการหาทางออกของขวัญชิ้นเดียว ให้ผู้รับเก็บได้ตลอดกาล ถูกเลือกส่งต่อในโอกาสทุกช่วงวัยของชีวิตตั้งแต่วัยรุ่นจนทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเทศกาล ช่วงเวลา ความสำเร็จ หรือจุดสำคัญของชีวิตคน เช่น วาเลนไทน์ ปัจฉิม (วันจบการศึกษา) รับปริญญา วันเกิด หรือวันแม่ (ส่งให้แม่) จึงคลอดเป็นสโลแกน “ของขวัญแบบนี้ที่มีชิ้นเดียวบนโลก” ทำให้เขาได้งานตลอดทั้งปี
“ไม่เพียงอีเวนท์ โอกาสพิเศษวันสำคัญทางการศึกษา แต่ชีวิตของวัยรุ่นต้องใช้ตลอดไม่ว่าจะเริ่มจีบ ทะเลาะกัน ง้องอนและคืนดีกัน วาเลนไทน์ วันเกิด จนถึงวันแต่งงาน มีทายาท โซดา พริ้นติ้งจะอยู่กับคนทุกช่วงวัย”
การตลาดที่แพร่กระจายในหมู่วัยรุ่นได้ ทุกสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ เกิดขึ้นจากการที่เขามองเห็นคลื่นดิจิทัล ช่องหลักใดๆ ทำให้วัยรุ่นเห็นและเกิดการซื้อต่อกัน เป็นสื่อได้เอง เพราะผู้รับรูปโพสต์บนโซเชียลมิเดียตัวเอง กระตุ้นเพื่อน และคนติดตามเห็น สั่งตาม
กองทัพธุรกิจ หรือทีมงานของโซดาพริ้นติ้ง จึงรุกทำตลาดผ่านออนไลน์ ทำตลาดผ่านคอมพิวเตอร์และมือถือ อยู่ในห้องแห่งหนึ่ง ณ จังหวัดเพชรบุรี เข้าหาวัยรุ่น ดักโอกาสจากทุกช่องทางในวิถีชีวิตโลกออนไลน์ (Customer Journey) โพสต์ผ่านทุกช่องทาง โซเชียลมิเดีย ไม่ว่าจะเป็นยุคล่าสุด ไอจี (IG-Instagram)
“รุกเข้าสู่วัยรุ่นผ่านเส้นทางออนไลน์ผ่านวิถีชีวิตวัยรุ่น เขาอยู่ไหนไปดักตรงนั้น โดยดึงให้เข้ามาสั่งออเดอร์จากไลน์ และเว็บไซต์ เป็นช่องทางหลักรับออเดอร์ ปรากฏว่ายอดสั่งซื้อถล่มในไลน์นับพันชิ้น จนทำให้ร้านโซดา พริ้นติ้งติดอันดับ 1 ของประเทศของขวัญวันรับปริญญา (ในปี 2015) และเคยติดอันดับท็อป 10 ร้านอาหารที่มียอดฮิตบนไลน์ ชอปปิง
วิธีการทำการตลาดของเขาไม่ใช่เพียงการให้ความสำคัญกับชีวิตวัยรุ่น ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์รูป ติดแฮชแท็กส่วนลด คนที่ยอดคนติดตามจำนวนมากหลักหมื่น หลักแสน หรือ เป็น KOL (Key Opinion Leader) แค่ให้น้องๆ ติดแฮชเท็ก SodAPrinting และรับส่วนลดผ่านรหัสตามชื่อ KOL แทนการพิมพ์รหัสตัวเลขซับซ้อน เป็นการยกย่อง สร้างความภูมิใจให้น้องๆ KOL
ปี 2563 เป็นปีที่เขาเริ่มวางแผนขยายโรงงานรองรับการเติบโต ของกองทัพการตลาดรุกโซเชียลมาตลอด จึงคาดหวังว่าอีเวนท์ประจำปีของเหล่าวัยรุ่น จะเป็นปีที่เขากอบโกยมากที่สุด จึงทุ่มทุนหลัก10ล้านบาท ซื้อเครื่องพิมพ์ผ้าใหม่ในสเกลที่ใหญ่ขึ้น รองรับลูกค้าหลากหลายโอกาส เช่น ภาพตกแต่งโรงแรม, ภาพมงคล, ตกแต่งร้านกาแฟ, สำนักงาน, ภาพของขวัญประจำหลักสูตรอบรม, ของขวัญวิทยากร, ของขวัญพรีเมี่ยมให้หน่วยงาน
ทว่า คลื่นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) มาแรงจนต้องหยุดฝัน ปิดทุกเทศกาลรวมกลุ่มตั้งแต่เดือนก.พ.63 เริ่มต้นจากวาเลนไทน์ ปัจฉิม รับปริญญา หยุดทุกกิจกรรมเพราะล็อกดาวน์ และน็อคเอาท์ธุรกิจเขาอยู่พักหนึ่ง
ด้วยความเป็นคนไม่หยุดคิดต่อยอด และแก้โจทย์ยากมาตลอดตั้งแต่เด็ก จนเรียนหนังสือ และวัยทำงาน เป็นเจ้าของธุรกิจ วิกฤติโควิดเป็นแค่เพียงหนึ่งบททดสอบใจคนทำธุรกิจอย่างไอซ์-ธีรศานต์ จากการบินไปดูงานเมืองจีนในช่วง 1-2 ปี ศึกษาเทรนด์การเติบโตของคลื่นดิจิทัลจากอาลีบาบา จึงรู้ว่าติ๊กต็อก(Tiktok) คือคลื่นลูกใหม่แพร่ระบาดหนักในประเทศจีน
“ใน2ปีที่แล้วจีนเกิดเทรนด์ชอปปิงกับความบันเทิง Shopper tainment (shoping + entertainment ) และเริ่มแพร่ระบาดในคนไทยในไม่ช้า”เขาเห็นโอกาสจึงเข้าไปปูทางในติ๊กต็อก”
กลวิธีกระโจนเข้าสู่ติ๊กต็อก ผ่านการเป็นสปอนเซอร์การทำเพลงในกลุ่มศิลปินวัยรุ่น เพียงมีเงื่อนไขให้วัยรุ่นใส่เสื้อ หรือ โปรดักท์จากโซดาพริ้นติ้ง บางเพลงทำเสื้อยืดลิมิเต็ดอิดิชั่นตัวขายหมดอย่างรวดเร็ว
รวมไปถึงการทำเพลงภายใต้โซดาพริ้นติ้งไว้ปล่อยในช่วงโอกาสพิเศษตลอดปี 5 เวอร์ชั่น เนื้อหาเกี่ยวกับชีวิตความรัก เน้นทำนองติดหลอนหู กระตุ้นให้เด็กวัยรุ่นนำไปโคฟเวอร์ร้องเต้นผ่านติ๊กต็อก เช่น เจ้าตัวเล็ก, พี่อยากได้หนู และพี่คงขาดใจตาย
การต้องดีลวัยรุ่นมายาวนานจึงเกิดพันธมิตร KOL ผู้มีอิทธิพลความคิดในวัยรุ่น ฮอร์โมน อายุตั้งแต่ 15-36 ปี ที่มีผู้ติดตามหลักหมื่นจนถึงหลักแสน หลักล้าน ทั่วประเทศกว่า 5,000 คน 300 ล้านผู้ติดตาม ที่เขาสร้างความสัมพันธ์ (Engagement) กับน้องแบบเพื่อนร่วมธุรกิจ
น้องๆ คนรุ่นใหม่ถือเป็นพันธมิตรธุรกิจ กอบกู้กธุรกิจมีหนี้หลักสิบล้านก่อนพายุโควิด -19 พลิกวิกฤติเป็นโอกาสจากKOLในมือ ช่วยทั้งธุรกิจและน้อง KOL ผู้โดนพิษโควิดเล่นงานเสียลูกค้าสูญรายได้จากรับผลิตคอนเทนท์ รับจ้างโพสต์ขายสินค้า
เมื่อเขาตั้งตัวได้คิดค้นผลิตหน้ากากผ้าแฟชั่นเจาะกลุ่มวัยรุ่น แก้เพนพอยท์ผู้ใส่หน้ากาก แล้วหน้าบาน ผ้าติดแป้ง เครื่องสำอาง เป็นใส่แล้วหน้าเรียว หายใจสะดวก ทำให้หน้ากากติดแป้ง ลายแฟชั่นโดนใจใส่สวย ส่งต่อให้น้องๆ KOL ขายราคาต่ำ99บาทต่อชิ้น พลิกเกม 4 เดือนล็อคดาวน์ ขายได้ 4 แสนชิ้น และยังรุกไปหารับจ้างผลิต(OEM) ให้กับลูกค้าองค์กรกว่า 5แสนชิ้น จากโรงงานที่เป็นหนี้มาสู่การคืนทุนและทำกำไร
“การสะสมเป็นพันธมิตร KOL ทำให้ผมมีตั๋วใบใหม่ธุรกิจได้ไปต่อเสมอ น้องๆ บางคนเคยมีรายได้หลักหมื่นถึงหลักแสนเยอะกว่าพนักงานประจำ เราช่วยให้ได้โพสต์ขายหน้ากากช่วยให้น้องมีเงินจ่ายค่าเทอมแบ่งเบาภาระพ่แม่ และยังมีเงินจ่ายลูกน้อง และยังกระจายงานให้กับชาวบ้านในจ.เพชรบุรีเย็บหน้ากาก”
ยุคหลังโควิด(Post-Covid) รุกสู่สายแฟชั่นจากหน้ากากผลิตสินค้ากว่า 36 รายการ โดยมีสินค้าแฟล็กชิป 10 รายการ เช่นเสื้อ กระเป๋า หมอนและผ้าห่ม แบรนด์ชื่อของKOL มีชื่อเสียง10คนที่มียอดคนตามหลักแสนทดลองทำตลาด เติบโตแบบพันธมิตรให้โอกาสน้องๆ เป็นเจ้าของแบรนด์
“คิดให้น้องๆ ที่เมื่อขายสินค้าให้เราไปเรื่อยๆ คงไม่ยืนยาวเท่ากับมีแบรนด์ของตัวเอง เราจึงออกแบบผลิตสินค้าลายแฟชั่น ภายใต้แบรนด์น้องๆเติบโตไปด้วยกันเค้ารอดเรารอด ”
ไม่เพียงเติบโตคู่กับ KOL เขายังต้องการเติบโตคู่กับไปสังคม โดยการพัฒนาแบรนด์ เสื้อฮาวายลายประจำจังหวัดเพชรบุรี แบบไม่เชย เปิดโอกาสให้คนในชุมชนที่ผลิตสินค้าของที่ระลึกในจังหวัดได้นำลายที่ออกแบบไปวางบนสินค้าโดยไม่เก็บค่าลิขสิทธิ์ หากโมเดลนี้สำเร็จจะขยายไปสู่จังหวัดอื่น
“ปล่อยให้ผลิตฟรีก็ช่วยโปรโมทลาย ยิ่งผลิตมากยิ่งมีชื่อเสียง หากอยากได้ของถูกก็ไปซื้อคนที่นำโลโก้ไปผลิต แต่หากอยากได้สินค้าคุณภาพให้มาซื้อกับเราต้นตำรับ เหมือนแบรนด์เนมสินค้าก็อปปี้มากเพราะแบรนด์ดัง”
เจ้าของโซดาพริ้นติ้ง สรุปแนวคิดของนักธุรกิจในยุคดิจิทัล เมื่อเจอทางตันจะหาทางออกให้กับตัวเองได้เสมอ นั่นเป็นเพราะอนิสงส์ จากวิธีคิดไม่มองผลกำไรชั่วคราว แต่มองคนรอบตัวเป็นพันธมิตรเติบโตไปด้วยกัน ทำให้กลุ่มคนในชุมชน และน้อง ๆKOL เป็นผู้ร่วมสร้างธุรกิจยืนยาว
“ตำราการตลาดนั้นเปลี่ยนไปแล้ว อยู่รอดได้หากไม่หวังกำไรแค่ตัวเอง แต่ต้องเชื่อมโยงประโยชน์ทุกฝ่าย ช่วงที่ยากลำบากพวกเขาจะเปิดประตูบานใหม่ให้กับเราเสมอ”
..........................
สูตร KOL ปลุกกระแส
-เป็นพันธมิตร KOL
-สินค้าเป็นส่วนหนึ่งทุกช่วงชีวิต
-มองคนรอบตัวคือผู้ร่วมธุรกิจ
-คิดเชื่อมโยงประโยชน์คนรอบตัว
-อ่านเทรนด์โลกสู่เทรนด์ไทย