‘LOVEiS Entertainment’ ในวันที่ขาดทุน 30 ล้าน กับจุดเปลี่ยนบทบาท 'บอย โกสิยพงษ์'

หลังจากที่เพจ LOVEiS ได้ออกประกาศบริษัท เลิฟ อิส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ออกมาเมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 1 ตุลาคม 2563 สร้างความตกใจให้กับสาวกของค่ายเพลงนี้อย่างมาก เพราะในประกาศระบุถึง “บอย โกสิยพงษ์” หรือ “ชีวิน โกสิยพงษ์" นักแต่งเพลง นักร้อง และโปรดิวเซอร์เพลงชื่อดัง และปัจจุบันก็ยังดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท เลิฟ อิส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด หรือค่ายเพลงเลิฟอีส (LOVEiS) ด้วย

แต่จากประกาศครั้งนี้ชี้แจงว่า “บอย โกสิยพงษ์” ได้ยุติบทบาทในบริษัทแล้ว ทั้งในฐานะของผู้ถือหุ้น และตำแหน่งกรรมการบริษัท ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของบอย โกสิยพงษ์เอง และยังได้ทำการโอนหุ้นทั้งหมดให้ “เทพอาจ กวินอนันต์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) และผู้ถือหุ้นค่ายเพลงเลิฟอีส

ทั้งนี้การยุติบทบาทครั้งนี้ สร้างความสงสัยอย่างมากว่ามาจากเหตุผลใด ซึ่งคงต้องรอฟังคำตอบจากปากของบอย โกสิยพงษ์ กันอีกครั้งหนึ่ง แต่ในวันนี้ “กรุงเทพธุรกิจออนไลน์” จะพาไปทำความรู้จักค่ายเพลงเลิฟอีสให้มากขึ้น

• ‘บอย โกสิยพงษ์’ ผู้คร่ำหวอดวงการเพลง

หากย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นของการเกิดค่ายเพลงเลิฟอีสนั้น บุคคลสำคัญที่ต้องพูดถึงก็คือ “บอยโกสิยพงษ์” ผู้ที่เป็นทั้งนักร้อง นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์ หรือที่หลายคนมักจะขนานนามว่าเจ้าพ่อเพลงรัก อยู่ในแวดวงของดนตรีมาอย่างยาวนานราวๆ กว่า 30 ปี แต่จริงๆ แล้วเริ่มคลุกคลีกับเครื่องดนตรีและเสียงเพลงมาตั้งแต่ยังเด็กอายุราวๆ 4 ขวบเท่านั้น

ด้วยความชื่นชอบดนตรีเป็นทุนเดิม จึงซึมซับความรักแห่งเสียงเพลงมาต่อเนื่อง เริ่มจากการแต่งเพลงประกอบเอง จนกระทั่งเลือกเรียนด้านการแต่งเพลงจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียในสหรัฐ ช่วงแรกเริ่มต้นอาชีพด้วยนักแต่งเพลงอิสระให้กับศิลปินและเป็นเพลงประกอบโฆษณา หลังจากนั้นได้รวมตัวกับ กมล สุโกศล แคลปป์, สมเกียรติ อริยชัยพาณิชย์ และสาลินี้ ปันยารชุน ก่อตั้งค่ายเพลงเล็กๆ ขึ้นมาในปี 2535 ก็คือ ค่ายเพลงเบอเกอรี่มิวสิค ภายใต้บริษัท เบเกอรี่มิวสิค จำกัด ปลุกปั้นศิลปินชื่อดังจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น โมเดิร์นด็อก, โจอี้ บอย, Soul After Six, Triumphs Kingdom, Goove Riders

• ส่องเส้นทางกว่าจะเป็น LOVEiS

หากใครจำได้ราวช่วงปี 2540 ไทยต้องเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง ธุรกิจจำนวนมากต่างได้รับผลกระทบไปถ้วนหน้า รวมถึงค่ายเพลงเบเกอรี่มิวสิคด้วย สถานการณ์ ณ​ ตอนนั้นเป็นช่วงที่ยากลำบากในการตัดสินใจ ทำให้หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งและผู้ถือหุ้นต้องโบกมือลา ขณะที่บัญชีของบริษัทก็รูดลงไปติดลบกว่า 60 ล้านาท ทางรอดคือร่วมทุนกับบิ๊กคอร์เปอเรท ผลที่ออกคือ บริษัท BMG หรือ Bertelsmann Music Group บริษัทย่อยของกลุ่มบริษัท Bertelsmann

หลังจากนั้นไม่นาน BMG ไปควบรวมกับค่ายเพลงยักษ์ใหญ่อย่าง “SONY MUSIC” หรือโซนี่ มิวสิค เอนเตอร์เทนเมนต์ และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็นโซนี่บีเอ็มจี มิวสิค เอนเตอร์เทนเมนต์ บอย โกสิยพงษ์ และเพื่อนร่วมทางต้องแยกย้ายไปตามทางของตัวเอง บอยจึงตัดสินใจเปิดค่ายเพลงใหม่ขึ้นมาคือ เลิฟอีส ภายใต้ บริษัท เลิฟ อิส จำกัด โดยมีการบริหารในรูปแบบสหกรณ์  ด้วยการแข่งขันในอุตสากรรมนี้ที่ค่อนข้างรุนแรง ในที่สุดจึงได้ “เทพอาจ กวินอนันต์” นักธุรกิจที่เคยร่วมธุรกิจกัน เข้ามาถือหุ้นและบริหารในตำแหน่งซีอีโอของบริษัท

• เปิดรายได้ ‘เลิฟ อิส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์’

บริษัท เลิฟ อิส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อปี 2560 ด้วยทุนจดทะเบียนราว 4 ล้านบาท มีการระบุรายชื่อคณะกรรมการ คือ นายเทพอาจ กวินอนันต์ และนางสาวพิรียา ถีระวัฒนาสวัสดิ์ โดยมีผู้ถือหุ้นทั้งหมด 3 ราย

ในแง่ของรายได้ของบริษัทนั้น เมื่อดูช่วง 3 ปีย้อนหลัง พบว่ารายได้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยปี 2562 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 138.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนราว 33 ล้านบาท ที่มีรายได้อยู่ที่ 171.18 ล้านบาท และปี 2560 บริษัทมีรายได้ 8.46 ล้านบาท

แต่หากดูในส่วนของงบกำไรขาดทุนสุทธิ พบว่าล่าสุดปี 2562 ขาดทุนราวๆ 30.2 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นอย่างมากกว่า 414.57% จากปีก่อนหน้า 2561 ที่ทำกำไรไป 9.6 ล้านบาท ขณะที่ปี 2560 ขาดทุนไป 5 แสนกว่าบาท ทั้งนี้ภาวะการขาดทุนที่เพิ่มขึ้นนั้น สะท้อนจากรายจ่ายรวมของบริษัทที่เพิ่มขึ้นสูงต่อเนื่อง เมื่อไล่เรียงตั้งแต่ปี 2560-2562 พบมีรายได้รวม 8.97, 159.14 และ 168.32 ล้านบาทตามลำดับ

ที่มา : dbd, LoveisFanPage, marketeeronline,